ชกไม่มีมุม

วงค์ ตาวัน

เป็นเหตุการณ์ที่สร้างความตื่นเต้นได้ไม่น้อยเลย เมื่อ ชาวอุยกูร์ 10 คน หลบหนีออกจากห้องควบคุมผู้หลบหนีเข้าเมือง ของสำนักงานตม.หนองคาย ในตอนกลางดึกเมื่อ 2 วันก่อน แต่พอรุ่งเช้าเจ้าหน้าที่สามารถติดตามจับกุมได้ โดยพบว่าหนีไปหลบซ่อนอยู่ในป่าที่ห่างออกไปประมาณ 6 กิโลเมตร

ความที่คืนเกิดเหตุมีฝนตก ชาวอุยกูร์หลบหนีไปโดยไม่ได้สวมรองเท้า จึงปรากฏรอยเท้าเปล่าให้แกะรอยได้ชัดเจน

ส่วนหนึ่งต้องชื่นชมการทำงานของเจ้าหน้าที่ โดยเฉพาะ สตม. ซึ่งประสานงานกับทุกฝ่าย จนทำให้ติดตามตัวได้อย่างทันท่วงที

โดยเฉพาะพล.ต.ท.ณัฐธร เพราะสุนทร ผบช.สตม. ใช้การประชุมทางไกลผ่านดาวเทียม ติดต่อกับทุกส่วนงานจนทำให้ทุกอย่างสำเร็จลุล่วง

แต่พร้อมๆ กัน ผบช.สตม.ได้อธิบายให้ได้รู้กันว่า เนื่องจากชาวอุยกูร์เหล่านี้ ไม่ได้กระทำผิดร้ายแรง เป็นเพียงผู้หลบหนีเข้าเมือง

จึงควบคุมไว้ในห้องที่ไม่ได้แข็งแรงเหมือนสถานที่คุมตัวผู้ต้องหาอื่นๆ

ส่วนวิธีการแหกห้องควบคุม น่าสนใจไม่น้อย

มีการนำเอาถังอาบน้ำขนาดใหญ่ในห้องน้ำคว่ำลง เสริมด้วยกระป๋อง แล้วปีนขึ้นไปใช้กำลังงัดเหล็ก ทลายฝ้าเพดาน และหลังคา แล้วใช้ผ้ามัดโรยตัวออกจากอาคาร

เอาเป็นว่า เมื่อจับได้รวดเร็วก็ถือว่าจบปัญหาไป

แต่ควรต้องตั้งกรรมการสอบสวนเพื่อสรุปปัญหาป้องกันไม่ให้เกิดเหตุ จนต้องมาตามจับกันให้เหนื่อยอีก

ขณะเดียวกัน ที่อยากจะนำมาท้วงติงประการหนึ่งก็คือ เห็นภาพข่าวชาวอุยกูร์ที่เจ้าหน้าที่ตามไปจับได้ในจุดที่ไปหลบซ่อน

โดนจับมัดไพล่หลังแล้วนอนคว่ำกับพื้น!!

อาจเป็นขั้นตอนที่ดูไม่ดีนัก ต้องระวังไม่ให้นำไปสู่ความไม่พอใจในหมู่ญาติมิตรของชาวอุยกูร์เหล่านี้

ก็มิได้ถึงกับเป็นการกระทำที่โหดและทารุณเกินไป แต่ก็อาจนำไปสู่ความเข้าใจผิด

โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากศึกษาจากกรณีกลุ่มชาวอุยกูร์เข้ามาวางระเบิดรุนแรงที่ศาลพระพรหม ใจกลางกรุง เมื่อสิงหาคมปีที่แล้ว

ต้นเหตุส่วนหนึ่ง มาจากความไม่พอใจที่ญาติพี่น้องซึ่งถูกคุมตัวในไทย โดนส่งกลับไปจีน

โดยมีภาพถูกผ้าดำคลุมหัวระหว่างนั่งบนเครื่องบิน!

รวมทั้งมีข่าวทำนองว่า ขณะกำลังจะนำตัวขึ้นเครื่องสายการบินจีนนั้น ได้เกิดเหตุอลหม่านที่สนามบิน

มีการต่อสู้ระหว่างเจ้าหน้าที่กับชาวอุยกูร์อย่างดุเดือด

นี่เป็นอีกชนวนสำคัญที่นำมาสู่การบุกมาวางระเบิดในแหล่งท่องเที่ยวคนจีนกลางกทม. เพื่อแก้แค้น

ปัญหาของชาวอุยกูร์เป็นเรื่องละเอียดอ่อนมาก

จึงต้องระวังกันให้มากๆ อย่าให้เกิดความเข้าใจผิดจนบานปลายเป็นอันขาด!

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน