ชกไม่มีมุม
วงค์ ตาวัน
อดีตนายกฯหญิงยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เพิ่งโอดครวญขอความเป็นธรรมว่า ทุกวันนี้นั่งอยู่ดีๆ ก็ต้องมารับคดีถึง 15 คดีแล้ว ได้พยายามส่งทนายคัดค้านต่อป.ป.ช.แต่ก็ได้รับการปฏิเสธทุกครั้ง จึงอยากร้องผ่านสื่อและสาธารณชนด้วย อยากให้ปฏิบัติเท่าเทียมกับคนอื่นๆ
ฟังดูก็น่าคิด
อันที่จริง การดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ย่อมมีความจำเป็นต้องถูกตรวจสอบ การโดนร้องเรียนในเรื่องต่างๆ ไม่น่าจะต้องมาโวยวายอะไร
แต่ถ้าเข้ามาทำหน้าที่นายกฯได้เพียง 2 ปีเศษๆ แล้วมีปัญหาโดนคดีถึง 15 คดี ถ้าดูตัวเลขอย่างนี้ ก็น่าสงสัยอยู่ไม่น้อย
เป็นนายกฯ คนแรกกระมังที่โดนอะไรขนาดนี้
แถม 15 คดีที่ว่า ก็ยังไม่น่าจะหมดแค่นี้!?
เป็นที่กล่าวขวัญกันในแวดวงการเมืองว่า ถ้าอดีตนายกฯหญิงยังยิ้มสู้ ยังเดินตลาดทักทายแฟนคลับไปเรื่อยๆ อย่างนี้ คงต้องมีคดีเพิ่มเรื่อยๆ เป็นแน่
ส่วนจะทำสถิติไปถึงกี่คดี ต้องติดตามกันต่อไป
ประเด็นที่น่าสนใจก็คือ ถ้าไปเพิ่มตัวเลขคดีให้มากๆ มันจะเกิดปัญหาขัดสายตาคนดูขึ้นมาหรือไม่ ทั้งคนดูในประเทศและในทั่วโลก
คล้ายกรณีอดีตนายกฯ พี่ชาย ไปถามคนทั่วโลก เขามองว่าที่โดนคดีนั้นเป็นเรื่องการเมือง มากกว่าการทุจริต
ตราบใดที่สายตาโลกมองอย่างนี้ ย่อมไม่เป็นผลดีต่อภาพพจน์บ้านเมืองเรา
ไม่ดีเช่นไร ก็เหมือนเรานั่งดูข่าวทีวีทั่วโลก เห็นการเมืองในชาติต่างๆ แล้วถ้าสื่อในระดับสากลเขาฉายภาพประเทศที่ไม่เป็นประชาธิปไตย เราดูแล้วรู้สึกอย่างไร
ตอนนี้ก็อาจมีคนชาติอื่นๆ เขารู้สึกประเทศเราอย่างนั้นไหม!?
อย่างกรณีอดีตนายกฯปูก็เช่นกัน ภาพที่ปรากฏออกมา มีการตั้งคดีทบทับไปเรื่อยๆ พร้อมๆ กับเจ้าตัวก็ยังคงเดินถนนพบปะมวลชนที่ยังรักใคร่ มาห้อมล้อมไปทั่วทุกที่ เช่นนี้แล้ว มันย่อมเป็นภาพที่ขัดแย้งกัน
ถ้าบอกว่าอดีตนายกฯ คนนี้ผิดพลาดเลวร้ายจนมีคดีอีนุงตุงนัง แล้วทำไมยังมีมวลชนขอถ่ายรูปขอเซลฟี่อยู่ เสมอๆ
ที่สำคัญ ประเด็นที่ยิ่งลักษณ์งัดขึ้นมาป่าวร้องก็ได้แก่ คดีน้ำท่วมเมื่อปี 2554
น้ำท่วมด้วยปรากฏการณ์พิเศษทางธรรมชาติที่ทุกหน่วยงานในประเทศไทยงงเป็นไก่ตาแตกไปตามๆ กัน!
เพราะเราไม่เคยเจอปริมาณน้ำมหาศาลขนาดนี้
แต่บอกว่านายกฯ ปีนั้นต้องมีความผิด
ระวังเรื่องนี้จะกลายเป็นบรรทัดฐาน เพราะเราเป็นประเทศฝนชุกชุม มีโอกาสน้ำท่วมตลอดเวลา
ขนาดช่วงสัปดาห์ที่แล้วมาจนถึงสัปดาห์นี้ น้ำก็ยังท่วมเลย หลายจังหวัดทั่วประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเมืองกรุง
เดี๋ยวจะโดนกับนายกฯ ทุกคน จะยุ่งกันไปใหญ่!
