คอลัมน์ ชกไม่มีมุม

วงค์ ตาวัน

มีคำเตือนล่าสุด จากหน่วยข่าวกรองไปยัง เจ้าหน้าที่รัฐทั่ว 3 จังหวัดใต้และบางส่วนของสงขลา ให้ระมัดระวังการตอบโต้จากฝ่ายก่อความ ไม่สงบ เนื่องจากหลังเหตุการณ์คาร์บอมบ์หน้าห้าง บิ๊กซี ปัตตานี แล้วนำมาสู่การสืบสวนจับกุมผู้ร่วม ก่อเหตุได้ทันควันจำนวนหนึ่ง และกำลังติดตามจับกุมอีกจำนวนหนึ่ง

เมื่อมีการจับและการตามล่าจากรัฐเกิดขึ้น ฝ่าย ก่อความไม่สงบก็จะต้องตอบโต้กลับ ด้วยปฏิบัติการรุนแรงใหม่ๆ

นี่คือประเด็นที่หน่วยข่าวกรองออกคำเตือน สะท้อนบรรยากาศในพื้นที่ไฟใต้ระยะนี้ว่า คง เต็มไปด้วยความตึงเครียด

เข้าทำนองแรงมาก็แรงไป

เป็นไปตามธรรมชาติของการศึกสงคราม

เป็นวงจรความรุนแรงที่ไม่จบสิ้น!

ด้านหนึ่ง ความรุนแรงจากปฏิบัติการคาร์บอมบ์ ที่บิ๊กซีปัตตานี ยังสร้างบาดแผลให้แก่ครอบครัว ของคนตายและคนเจ็บ

ยังสร้างความหวาดผวาให้กับชาวบ้านอีกจำนวนมากที่อยู่ในเหตุการณ์และต้องหนีตายกันอลหม่านในวันนั้น

รวมทั้งสร้างผลกระทบทางเศรษฐกิจให้กับเจ้าของกิจการค้าในพื้นที่

แต่เมื่อคนร้ายลอบก่อเหตุ ทำให้มีผู้เสียชีวิต คือ เจ้าของรถปิกอัพที่ถูกชิงไปประกอบระเบิด ไปจนถึง ผู้บาดเจ็บเกินกว่าครึ่งร้อยในนาทีระเบิด

เช่นนี้แล้ว ตำรวจต้องเร่งสืบสวนจับกุมตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย

แต่ผลที่ตามมาคืออะไร เมื่อจับกุมได้ ก็เกิดบรรยากาศการตึงเครียดและการตอบโต้จากอีกฝ่ายตามมา

ฝ่ายรัฐก็ต้องมาตั้งรับอย่างเคร่งเครียดกันอีก!

โดยไม่รู้ว่าฝ่ายลอบก่อเหตุ จะแอบซ่อนมาด้วยกลวิธีไหน

ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะลงมือตรงไหน

ส่วนประชาชนทั่วไปก็คงอยู่ด้วยความหวาดผวา

นี่จึงต้องเรียกว่าเป็นวงจรความสะพรึงกลัวที่ไม่สิ้นสุด

รวมทั้งต้องสรุปว่า ปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ในระดับปฏิบัติทั้งตำรวจ-ทหาร ก็ต้องทำไป แต่คือการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ

การแก้ที่ต้นเหตุ ต้องเป็นระดับนโยบาย คือ รัฐบาล

ในเมื่อความจริงบอกว่า การปราบปรามไม่ใช่ทางแก้ได้อย่างแท้จริง แถมนำมาซึ่งการล้างแค้นกันไปมา

ต้องกำหนดนโยบายการแก้ปัญหาที่ถูกต้องชัดเจน และเร่งดำเนินการให้มีผลโดยเร็ว

ชีวิตประชาชน ตำรวจและทหาร สูญเสียมามากแล้ว!

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน