คอลัมน์ ชกไม่มีมุม
วงค์ ตาวัน
เมื่อพยานหลักฐานชัดเจน ผู้ต้องหาเองก็ให้การ รับสารภาพ เป็นอันว่าคดีระเบิดโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า รวมไปถึงหน้ากองสลากเก่า หน้าโรงละครแห่งชาติ
รวมทั้งย้อนไปถึงอีก 3 ลูกในช่วงปี 2550 เป็นอันคลี่คลายได้เสียที
การจับคุณลุงวิศวกร อดีตพนักงานกฟผ. เท่ากับได้คำตอบคดีระเบิดทั่วกรุงถึง 6 คดี
ในชั้นนี้ ดูจะมีชนวนเหตุมาจากความคิดสุดโต่งในทางส่วนตัว
เป็นเรื่องของตัวบุคคลที่มีแนวคิดต่อต้านอำนาจรัฐประหาร และแค้นเคืองเหตุการณ์ปราบม็อบ เสื้อแดงในปี 2553
อาจจะเข้าตำราผู้ก่อความไม่สงบที่ไม่มีเครือข่าย
นั่นเป็นเรื่องที่คสช.ต้องไปขบคิดต่อว่าจะหยุดปัญหาทำนองนี้ได้ด้วยหนทางไหน!?
เรื่องแก้ไขทางการเมืองก็ส่วนหนึ่ง ส่วนในด้านกฎหมายก็ต้องว่ากันไป
กล่าวในด้านการติดตามจับกุมผู้ต้องหาคดีนี้ ต้องนับเป็นผลงานโบแดงของตำรวจยุคนี้
โดยเฉพาะพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ลงควบคุมการแกะรอยเอง ควักกระเป๋าทุ่มเทงบประมาณตามล่ากันแทบพลิกแผ่นดิน
ด้วยความที่มีประสบการณ์และประสบความสำเร็จมาแล้วจากคดีระเบิดศาลพระพรหม แยกราชประสงค์ เมื่อปี 2558
ตอนนั้นเป็นรองผบ.ตร. เป็นหัวหน้าชุดสืบสวน
งวดนี้เป็นผบ.ตร.แล้ว แต่ด้วยความมุ่งมั่น และด้วยมีประสบการณ์มาแล้ว จึงลงมาลุยเองอีกหน!
ด้วยการวิเคราะห์กล้องวงจรปิด ถือเป็นเคล็ดสำคัญ ที่สำเร็จจากคดีศาลพระพรหม จนถึงคดีระเบิดโรงพยาบาลนี้ก็เช่นกัน
แม้ว่ากล้องในเหตุระเบิดโรงพยาบาลจะไม่สมบูรณ์ครบทุกมุม แต่ก็อาศัยการสังเกต วิเคราะห์พฤติกรรมอย่างละเอียด
จนเมื่อได้ผู้เป็นเป้าหมาย ก็ไล่วงจรปิดนอกโรงพยาบาล ตามเส้นทางต่างๆ ไปจนถึงแหล่งพักอาศัย
เมื่อตัดสินใจเข้าตรวจค้น พล.ต.อ.จักรทิพย์ พร้อมด้วย พล.ท.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ แม่ทัพภาคที่ 1 เข้าดำเนินการเอง!
จนพบพยานหลักฐานมากมายภายในบ้านพัก
รวมทั้งสอบสวนผู้ต้องหาเอง
ทุกอย่างจึงกระจ่างชัด ไม่มีผิดพลาดแน่
คดีระเบิดนั้นจับได้ยากที่สุด
แต่คดีนี้จับทีเดียวได้ถึง 6 คดี!