คอลัมน์ ชกไม่มีมุม
วงค์ ตาวัน
ต้นตอปัญหาไฟใต้นั้น ถ้าไม่ใช่พวกมีทัศนะชาตินิยมล้าหลังขวาจัด จะต้องเข้าใจดีว่า มีปมความขัดแย้งที่ฝังรากมายาวนาน ระหว่างผู้มีอำนาจกับคนในพื้นที่ ซึ่งมีความละเอียดอ่อนด้านเชื้อชาติศาสนา จนเกิดสถานการณ์ความไม่สงบที่ยังยืดเยื้อถึงทุกวันนี้
ทางออก จึงเป็นเรื่องการเร่งสร้างความเป็นธรรม ไม่ใช่เร่งใช้ไฟไปดับไฟ
ดังนั้นเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดกลางเมืองปัตตานีเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา จึงทำให้คนในพื้นที่รู้สึกกังวลและห่วงใย
เมื่อทหารพรานยศส.อ. ซึ่งเครียดเรื่องทะเลาะกับเมีย แล้วขับปิกอัพไปเฉี่ยวรถมอเตอร์ไซค์ข้างทางล้มลง แต่ไม่สนใจลงมาดู
พอนักศึกษาหญิงเจ้าของรถวิ่งตามไปสอบถาม กลับถูกส.อ.คนดังกล่าว ชักปืนยิงใส่ 3 นัด แต่ยังโชคดี ที่ไม่โดน แถมยังยิงขึ้นฟ้า แล้วเล็งปืนขู่อีก
ยังดีเมื่อเป็นคดีความ ผู้บังคับบัญชาไม่ปกป้อง รีบนำตัวมาส่งตำรวจ พร้อมกับยืนยันให้ดำเนินคดีอย่าง เด็ดขาด พร้อมทั้งจะถูกลงโทษทางวินัยด้วย
ส.อ.ผู้ก่อเหตุ ก็แสดงท่าทีรับผิด ยกมือไหว้ขอโทษผู้เสียหาย และขอโทษประชาชน!
เหล่านี้ ได้ช่วยให้บรรยากาศเย็นลงมากโข
เป็นความพยายามที่ดีของฝ่ายทหาร เพียงแต่จะหยุดผลกระทบที่ตามมาได้อย่างถึงที่สุดหรือไม่
ยังน่าสงสัย!?!
เห็นได้อย่างหนึ่ง จากการออกแถลงการณ์ของอาจารย์ และผู้บริหารมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี ต้นสังกัดของนักศึกษาหญิง
เนื้อหาสาระคือ ยังรู้สึกเป็นห่วง โดยเฉพาะผลกระทบทางจิตใจต่อนักศึกษาสาวที่เป็นเหยื่อ
ทั้งเน้นด้วยว่า เป็นเหตุรุนแรงที่เกิดในพื้นที่สาธารณะ มีผลกระทบต่อความมั่นคงปลอดภัยในการดำเนินชีวิตของประชาชน
อีกทั้งเหตุการณ์นี้ เกิดจากเจ้าหน้าที่รัฐที่มีหน้าที่ดูแลความมั่นคงปลอดภัย
จึงขอเรียกร้องให้มีพื้นที่ปลอดภัยกับประชาชนอย่างแท้จริง
อ่านแถลงการณ์จบ ต้องชื่นชมและเห็นด้วย!
เพราะเรื่องนี้แม้จะดูดีที่มีการดำเนินคดีกับทหารพรานที่ก่อเหตุ ไม่มีการปกป้องกันเอง แถมรีบกล่าวขอโทษขอโพย
แต่จะมองว่าเพียงพอแล้ว ควรจบได้แล้ว คงไม่ใช่เช่นนั้น
เหตุการณ์นี้เกิดกับนักศึกษาหญิงรายหนึ่ง ก็น่าตกใจอยู่แล้ว
แต่ควรมองถึงภาพรวม ดังแถลงการณ์ของอาจารย์ที่เรียกร้องให้มีพื้นที่ปลอดภัยให้กับประชาชนอย่างแท้จริง
ไม่เช่นนั้นแล้ว ชีวิตคนในพื้นที่ไฟใต้ ไม่เพียงต้องระวังลูกหลงจากปฏิบัติการของกลุ่มก่อความไม่สงบเท่านั้น
แต่ยังต้องระวังเจ้าหน้าที่รัฐ ที่อาจเพิ่งทะเลาะกับเมียแล้วเมาเครียดมาอีกด้วย!
