คอลัมน์ ชกไม่มีมุม
วงค์ ตาวัน
คณะกรรมการปฏิรูปตำรวจที่มีพล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ เป็นประธาน มีความคืบหน้าในการทำงานอย่างคึกคัก โดยรวบรวมความคิดเห็นและแนวทางจากฝ่ายต่างๆ ซึ่งล่าสุดมีข้อเสนอที่น่าสนใจอย่างมาก
โดยเฉพาะในประเด็นงานสอบสวนของตำรวจ ที่เป็นเรื่องถกเถียงกันอยู่
เพราะผู้เสนอคือ สมาคมพนักงานสอบสวน ซึ่งมีพล.ต.อ.วุฑฒิชัย ศรีรัตนวุฑฒิ เป็นนายกสมาคม ในฐานะอดีตรองผบ.ตร.ที่เป็นมือสอบสวนมาตลอดชีวิต
อีกทั้งสมาคมพนักงานสอบสวน มีสมาชิกซึ่งเป็นพนักงานสอบสวนที่ปฏิบัติหน้าที่ในหน่วยตำรวจทั่วประเทศ รวมทั้งอดีตพนักงานสอบสวน
จึงเป็นองค์กรที่รวมมือสอบสวนเอาไว้มากที่สุด รู้จริงที่สุด
ในเอกสารที่สมาคมพนักงานสอบสวนนำเสนอ เป็นการระดมความคิดเห็นของพนักงานสอบสวน สรุปเป็นข้อเสนอแนวทางปฏิรูประบบงานสอบสวน
ประเด็นแรก งานสอบสวนตำรวจ ต้องมีการแก้ไข เพื่อให้ มีความเป็นอิสระ
แต่การย้ายสังกัดออกจากองค์กรตำรวจ ไม่ใช่เรื่องถูกต้อง!
จะเกิดผลเสียต่อการอำนวยความยุติธรรมให้ประชาชนมากกว่า
เพราะงานสอบสวนต้องทำคู่กับฝ่ายสืบสวน
เชื่อมโยงกันเหมือนสองด้านของเหรียญ
อีกทั้งในกระบวนการยุติธรรมล้วนยอมรับว่า หน่วยงานที่มีความสันทัดรอบรู้ประสบการณ์งานสอบสวนก็คือพนักงานสอบสวนของตำรวจ
ดังนั้นงานสอบสวนต้องอยู่กับตำรวจต่อไป!
แต่ต้องปฏิรูป เช่น ยกฐานะขึ้นเป็นกองบัญชาการ หรือ แยกสายงานที่ชัดเจนเพื่อการเติบโตก้าวหน้าตั้งแต่ระดับรองสารวัตรไปจนถึงรองผบ.ตร.
ส่วนทางแก้ไขเรื่องทำสำนวนไม่ทัน หรือต้องเร่งรีบรวบรัด
มีทางออกคือ ใช้ระบบเดียวกับที่หลายประเทศใช้กัน ในระดับสากล โดยพนักงานสอบสวน ไม่จำเป็นต้องทำสำนวนในทุกคดี
ทุกคดีที่เกิดเหตุในเบื้องต้น ให้ฝ่ายสืบสวนทำหน้าที่แสวงหาพยานหลักฐานไปก่อน ถ้ามีชัดเจนบ่งชี้ผู้กระทำผิดได้ จึงจับกุมและส่งให้พนักงานสอบสวน เพื่อทำเป็นสำนวนคดี
ไม่ใช่ว่า เป็นสำนวนคดีทุกคดีเช่นทุกวันนี้ เลยทำให้สำนวนค้างจำนวนมาก
นอกจากนี้ พนักงานสอบสวนที่เก่งๆ แต่เมื่อเกษียณเท่ากับต้องเสียบุคลากรที่มีคุณค่าไป
จึงน่าเปิดให้มี“พนักงานสอบสวนเอกชน”ขึ้นมา มีกฎหมายรองรับ
ช่วยแก้เรื่องพนักงานสอบสวนไม่เพียงพอได้
ข้อเสนอดีๆ เหล่านี้ เชื่อว่าคณะกรรมการปฏิรูปตำรวจคงไม่มองข้าม จะปฏิรูปตำรวจ ก็ต้องฟังตำรวจ
จะได้ไม่เข้ารกเข้าพงเหมือนปฏิรูปการเมือง ที่คิดแทนประชาชน!