“วงค์ ตาวัน”
มีเรื่องตลกขบขันสะท้อนตัวตนของนักกฎหมาย ที่มีการส่งต่อกันแพร่หลายในสังคมออนไลน์ เรื่องนี้มีอยู่ว่า….มีนักกฎหมาย 2 ราย ใส่สูทผูกไท แต่งตัวโก้ เดินเข้าไปในภัตตาคารหรูหราแห่งหนึ่ง พร้อมกับสั่งกาแฟมาดื่ม 2 ที่
ระหว่างที่รอกาแฟมาเสิร์ฟนั้น นักกฎหมายทั้งสอง ต่างก็หยิบเอาแซนด์วิชจากกระเป๋าเอกสารขึ้นมาแกะ ห่อกิน
จังหวะนั้นบริกรของภัตตาคารเหลือบไปเห็นเข้า จึงเดินเข้ามาเตือนว่า
ขออภัยค่ะท่าน ท่านนำอาหารของตัวเองมาทานในร้านไม่ได้ เป็นกฎห้ามของที่นี่ค่ะ
นักกฎหมายทั้งสองหยุดนิ่ง เงียบไปชั่วครู่ แล้วหันมามองหน้ากัน
จากนั้นต่างก็ยื่นแซนด์วิชในมือตัวเองส่งให้เพื่อน เพื่อแลกกัน แล้วก็เริ่มกินแซนด์วิชในมือต่อไป…
ว่ากันว่านี่เป็นเรื่องตลกคลาสสิคของวงการนักกฎหมาย
อ่านแล้วรู้สึกเป็นเรื่องเสียดสีก็ได้ หรือจะมองว่านี่ไงไหวพริบของนักกฎหมาย คิดไวแก้ปัญหาพลิกแพลง ข้อกฎหมายได้ตลอดเวลา
ไม่ว่าจะในสถานการณ์ไหน นักกฎหมายบางรายก็หาช่องโหว่ทางกฎหมายจนได้นั่นแหละ
เมื่อห้ามนำอาหารของตัวเองมาทานในร้าน ก็แค่แลกเปลี่ยนกัน
เท่ากับ ไม่ใช่แซนด์วิชของตัวเองหรือที่นำมาเองไปในทันที!
มีหลายคนอ่านเรื่องนี้ แล้วบอกว่า เห็นหน้านักการเมืองที่ถนัดถนี่เรื่องช่องทางกฎหมาย 2 คนขึ้นมาทันที
เปรียบเหมือน 2 คนนี้ถือแซนด์วิชเข้าไปนั่งกิน ในสถานที่ที่มีการถกเถียงกันเรื่องคดีที่มีคนตาย ร่วมร้อย
ก่อนที่ทั้งคู่จะแลกแซนด์วิชกันกิน แล้วก็นั่งเคี้ยวต่อไปอย่างสบายๆ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ไม่ผิดกฎเกณฑ์แต่อย่างใด เพียงแต่พบช่องว่างระหว่างกฎ
ลงเอยคดีความรุนแรงที่มีคนตายร่วมร้อย ก็หลุดพ้นไปจากกระบวนการพิจารณาคดีฆ่าได้
กลายไปเป็นคดีผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ กลายเป็นขอบเขตอำนาจของคณะกรรมการด้านทุจริตแทน!?!
นักการเมืองผู้ช่ำชองทางกฎหมายทั้งสอง อาจจะเคยพูดเสียงดังฟังชัดด้วยซ้ำว่า
พวกเราเคารพกฎกติกาข้อห้าม พร้อมจะปฏิบัติตาม ไม่เคยคิดทำผิดกฎแล้วหลบหนี หรือไม่เคยเรียกหาการนิรโทษลบล้างความผิดนั้น
เราพร้อมจะรับการพิจารณากฎกติกา ถ้าเราผิดกฎก็พร้อมจะรับโทษทัณฑ์
แต่พอบริกรยกกฎข้อห้ามขึ้นมา
ก็จัดการแลกแซนด์วิชในมือกัน เพื่อนั่งกินต่อไป!