คอลัมน์ ชกไม่มีมุม
วงค์ ตาวัน
เหตุใดการสลายม็อบ เมษายน-พฤษภาคม 2553 จึงมีคนตายมากที่สุดในประวัติศาสตร์เหตุการณ์นองเลือดของบ้านเรา โดยตายถึง 99 ศพ มากกว่า 14 ตุลาคม 2516 มากกว่า 6 ตุลาคม 2519 และมากกว่าพฤษภาทมิฬ 2535 เสียอีก
อาจเพราะผู้มีอำนาจสั่งการ ยังอ่อนหัด ปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม
แต่ไม่รู้ตัว
หรือหลงว่ามีเครือข่ายอำนาจที่อุ้มชูอยู่ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ก็สามารถ”อยู่รอดปลอดภัยได้”
ซึ่งในประเด็นนี้ ดูข้อเท็จจริงจนถึงวันนี้ มีเค้า ความจริงอยู่มาก!
เพราะยังอยู่ได้สบายๆ ขณะที่ฝ่ายคนตายฝ่ายสูญเสียกลับเดือดร้อนดิ้นรนไม่สิ้นสุด เพราะยังไม่มีความเป็นธรรม
วันนี้ต้องมานั่งพับถุงกล้วยแขก ขายไข่เหี้ย เพื่อหาเงินเดินหน้ารื้อฟื้นคดีใหม่!
จะว่าไปแล้ว ใครก็ตามก้าวขึ้นมากุมอำนาจในบ้านเมือง แล้วสามัญสำนึกไม่บกพร่อง จะเรียนรู้อย่างหนึ่งว่า เหตุการณ์พฤษภาทมิฬ 2535 ที่ใช้ทหารพร้อมกระสุนจริงเข้าสลายการชุมนุมจนมีคนตายราวครึ่งร้อย
ควรจะเป็นครั้งสุดท้ายได้แล้ว
เพราะรัฐบาลอานันท์ ปันยารชุน ที่เข้ามาแก้ปัญหาจากนั้น ได้มีมติชัดเจนว่า
หนทางเดียวที่จะหยุดการนองเลือดของประชาชนที่ชุมนุมทางการเมือง ต้องใช้ตำรวจปราบจลาจลเข้าควบคุมสถานการณ์ เหมือนประเทศที่เจริญแล้วทั้งมวล!
รัฐบาลอานันท์ ทุ่มเทงบประมาณ เพื่อจัดหน่วยปราบจลาจลมาตรฐานสากล และทุกรัฐบาลหลังจากนั้นก็ยึดมตินี้มาตลอด
แต่รัฐบาลในปี 2553 กลับย้อนยุค หันไปใช้ทหารและกระสุนจริง!?
ด้วยข้ออ้างผู้ก่อการร้าย ชายชุดดำ ทั้งที่ทุกเหตุการณ์ ไม่ว่า 14 ตุลาคม 2516 ก็มีข้ออ้างผกค. ไม่ว่าจะ 6 ตุลาคม 2519 ก็มีข้ออ้างคอมมิวนิสต์ญวน เขมร เต็มธรรมศาสตร์ ไม่ว่าพฤษภาคม 2535 ก็มีข้ออ้างก่อการร้ายจะยึดกรุงเทพฯ
เมื่อ 14 ตุลาฯ ก็มีชายลึกลับลอบเผาตึกหลายตึก เพื่อจุดชนวนสถานการณ์, พฤษภาคม 2535 ก็มีหน่วยมอเตอร์ไซค์ออกเผาหลายๆ จุด เพื่อสร้างสถานการณ์
ขณะที่ปี 2553 อ้างชายชุดดำ ผู้ก่อการร้าย แต่สุดท้าย ที่ถูกกระสุนจริงจากเจ้าหน้าที่ร่วมร้อยศพ ไม่มีผู้ก่อการร้ายแม้แต่ศพเดียว
ขอถามอีกทีว่าข้ออ้างนั้นถูกต้องอย่างไร!
คิดบ้างหรือไม่ว่า การยอมให้ใช้เจ้าหน้าที่ถือปืนจริงกระสุนจริงหลายหมื่นนาย กระจายไปในจุดต่างๆ ทั่วกทม. โดยทุกคนได้รับการป้อนข้อมูลผู้ก่อการร้าย ชายชุดดำ
บรรยากาศตึงเครียดเช่นนี้แล้วอะไรจะเกิดขึ้น
เอาอะไรมาคิดว่า จะสามารถควบคุมคำสั่งและการปฏิบัติไม่ให้บานปลาย ไม่ให้เกิดผลกระทบต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์ที่ชุมนุมอยู่โดยไม่มีอาวุธ หรือที่เดินเหินอยู่ตามท้องถนน
อย่าง ด.ช.อีซาวัย 12 ขวบ อย่างน้องเฌอวัย 17 ปี อย่างน้องเกดพยาบาลอาสา ทำไมต้องตาย
ลงเอยสำนึกรับผิดชอบไม่มีเลยหรือ!?