“วงค์ ตาวัน”
นอกจากนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จะต่อสู้คดี 99 ศพ ด้วยการใช้ช่องทางข้อกฎหมาย จนทำให้คดีพ้นไปจากระบบของศาลยุติธรรม ทำให้ไม่มีการพิสูจน์คดีในประเด็น “การฆ่า” แล้วถัดจากนี้ถ้าป.ป.ช.จะรับไปไต่สวนใหม่ ก็จะกลายเป็นคดีเรื่องผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ไป
จนน่าสงสัยคำพูดของนายอภิสิทธิ์ที่ประกาศว่า จะไม่หนีคดี ไม่ยอมนิรโทษกรรม พร้อมจะเข้าคุกหากศาลตัดสินว่าผิดจริง
แต่ในความเป็นจริง งัดข้อกฎหมายมาต่อสู้ จนบัดนี้คดี 99 ศพ ยังไม่สามารถนำขึ้นชั้นศาลได้เลย
อันเป็นเรื่องที่สะท้อนฉายาของนายอภิสิทธิ์ได้เป็นอย่างดีแล้ว
เมื่อไม่กี่วันมานี้ นายอภิสิทธิ์ยังได้ออกมาตอบโต้กรณีมีความพยายามจะรื้อฟื้นคดีนี้ให้ได้
ทำนองว่า ไม่ควรใช้เรื่องนี้มาเป็นเครื่องมือทางการเมือง แล้วตอนที่จะมีพ.ร.บ.นิรโทษกรรมเพื่อลบล้างความผิดทั้งหมด คนกลุ่มนี้ทำไมไม่ออกมาค้าน
ฟังแล้วต้องสงสัยเรื่องข้อมูลความจำเป็นอย่างมาก!
เพราะตอนพรรคเพื่อไทยผลักดันนิรโทษเหมาเข่ง มีข่าวสารเปิดเผยว่า แกนนำนปช.ได้ออกมาคัดค้าน รวมทั้งญาติคนตาย 99 ศพก็ค้าน
นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เป็นผู้ที่ใช้คำพูดว่า การเหมาเข่ง ระวังจะกลายเป็นหกหมดทั้งเข่ง
ล่าสุดแกนนำนปช.จึงออกมาตอบกลับนายอภิสิทธิ์
นอกจากจะยืนยันว่า คัดค้านพ.ร.บ.นิรโทษในตอนนั้นอย่างแน่นอนแล้ว
ยังย้อนรอยคำพูดของนายอภิสิทธิ์เมื่อเกิดเหตุการณ์รัฐบาลสมชาย วงศ์สวัสดิ์ สลายม็อบ 7 ตุลาคม 2551
โดยนายณัฐวุฒิบอกว่า ยังจำคำพูดเหล่านั้นได้จับใจ!
เมื่อไปย้อนดูแฟ้มข่าวตอนนั้นก็พบว่า มีคำพูดอันน่าจับใจของนายอภิสิทธิ์หลายประโยคจริงๆ ได้แก่
“ผมไม่นึกไม่ฝันว่าเรามีรัฐที่ได้ทำร้ายประชาชนถึงขั้นเสียชีวิต บาดเจ็บสาหัสแล้ว เรายังมีรัฐที่พยายามยัดเยียดความผิดกลับไปให้ประชาชนอีก เป็นพฤติกรรมที่รับไม่ได้ครับ”
ถัดมาก็จับใจ
“ไม่มีที่ไหนในโลกที่ประชาชน ถูกทำร้ายจากภาครัฐแล้วรัฐบาลที่มาจากประชาชนไม่แสดงความรับผิดชอบ ไม่มี”
แล้วที่นายอภิสิทธิ์กล่าวได้หนักแน่นอย่างมากคือ
“ต้องมีคนรับผิดชอบต่อการสูญเสียที่เกิดขึ้นกับประชาชนครับ”
นั่นคือเหตุการณ์ที่รัฐบาลสมชาย ใช้ตำรวจปราบจลาจลและแก๊สน้ำตา เสียชีวิตปริศนา 2 ราย
แต่ในยุครัฐบาลอภิสิทธิ์ ใช้เจ้าหน้าที่หน่วยรบ กระสุนจริง ตายถึง 99 ศพ โดยมี 17 ศพที่ศาลชี้แล้วว่าตายด้วยปืนของเจ้าหน้าที่ศอฉ.
ต้องมีคนรับผิดชอบนะครับ!!
