“วงค์ ตาวัน”
เป็นไปได้อย่างมากว่า หลังจากศาลได้อ่านคำพิพากษาคดีจำนำข้าว โดยตัดสินให้จำคุกยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นเวลา 5 ปี ไม่มีรอลงอาญา เมื่อเป็นอันชัดเจนเช่นนี้แล้ว คงส่งผลให้อดีตนายกฯหญิง สามารถตัดสินใจได้แล้วว่า จะเริ่มเคลื่อนไหวหรือเริ่มปรากฏตัวหรือไม่
หลังจากที่หายตัวไปตั้งแต่วันที่ 23 สิงหาคม หรือ 1 เดือนกว่าๆ
ทิ้งร่องรอยไว้เพียง เส้นทางจากกทม.ไปถึงอ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว โดยรถคัมรี่ที่มีพ.ต.อ.ชัยฤทธิ์ อนุฤทธิ์ เป็นผู้ขับ
ร่องรอยต่อจากนั้นยังไม่มีอะไรชัดเจน ว่าออกไปนอกประเทศอย่างไร แล้วไปไหนต่อ
กล่าวในทางพยานหลักฐาน จึงยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าออกนอกประเทศไปแล้ว
จนกว่าจะมีการตรวจพบว่าได้ใช้พาสปอร์ตเข้าออกประเทศไหน
หรือจนกว่าจะมีพยานหลักฐานที่พบเห็นการเดินทางข้ามแดนออกนอกประเทศไทยตรงไหน!?
ยกเว้นว่า หลังจากที่ศาลอ่านคำพิพากษาออกมาเช่นนี้แล้ว
จะเริ่มเผยตัว ว่าบัดนี้พำนักอยู่ที่ดินแดนประเทศอะไร
ถ้าเปิดตัวออกมาแสดงท่าทีทางการเมืองเมื่อไร
นั่นแหละจึงจะเป็นหลักฐานบ่งชี้ชัดว่า ออกนอกประเทศไปแล้วอย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตามในเบื้องต้น เมื่อมีคำตัดสินจำคุก 5 ปีออกมาแล้ว แต่จำเลยไม่มาปรากฏตัว ไม่มาฟัง ไม่มารับโทษตามคำพิพากษา
ย่อมเป็นหน้าที่ของตำรวจในการออกตามจับกุมตัวเพื่อมารับโทษตามคำพิพากษา
โดยชั้นนี้ก็ต้องติดตามภายในประเทศทั่วราชอาณาจักร
พร้อมกับประสานกับตำรวจสากลติดตามตัวในต่างประเทศต่อไป
เพียงแต่ถ้าดูบทเรียนจากทักษิณ ชินวัตร พี่ชาย ซึ่งก็หลบหนีคดีไปอยู่ดูไบ และไปปรากฏตัวในประเทศต่างๆ
นับสิบปีมาแล้ว ที่รัฐบาลประกาศติดตามตัวมาลงโทษในไทย แต่ไม่สามารถทำอะไรได้!
เพราะทั่วโลกมองว่า เป็นปัญหาความขัดแย้งทางการเมือง จึงทำให้ทางการไทยไม่ได้รับความร่วมมือในการจับกุมตัว
ดูแล้วการหลบหนีของยิ่งลักษณ์ในสายตาชาวโลก ก็คงมองไม่ต่างไปจากพี่ชาย
เป็นเรื่องการกวาดล้างทางการเมือง!?!
นับจากนี้ จึงไม่แค่พี่ชายเท่านั้น อาจมีน้องสาวสมทบออกมาร่วมเคลื่อนไหวทางการเมืองเพิ่มอีกแรง
เรื่องราวของไทยแลนด์ก็วนเวียนเช่นนี้อยู่ต่อไป!