“วงค์ ตาวัน”
ในกระแสการปรับครม.หนนี้ นับว่า “เจ้ากรมข่าวลือ” ได้มีบทบาทในการสร้างข่าวอย่างคึกคักเอาการเอางานมากที่สุดหนหนึ่ง ปั่นชื่อหลายคนให้กลายเป็นตัวเต็งรัฐมนตรีขึ้นมาอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย โดยไม่มีมูลความจริงแม้แต่น้อย
โดยมีคนที่พร้อมจะเชื่อข่าวลือ รีบเชื่อไปทันที แล้วช่วยขยายข่าวลือนั้น จนเตลิดไปไกล
อย่างเช่น พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา นั่งเก้าอี้ผบ.ตร.อยู่ดีๆ ก็ได้รับเกียรติให้ขึ้นเป็นรัฐมนตรีทั้งที่เจ้าตัวไม่เคยคิด
หากย้อนไปตั้งแต่เริ่มต้นเดือนพฤศจิกายน ซึ่งสัญญาณการปรับครม.เกิดขึ้น เพราะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานตัดสินใจไขก๊อก ด้วยปมความไม่พอใจในหลายประเด็น
เท่ากับว่าจะต้องมีการแต่งตั้งคนใหม่มาแทน เมื่อบวกเข้ากับกระแสการยกเครื่องทีมรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจที่มีมาตลอด
เลยมีความเคลื่อนไหวเตรียมปรับครม.ครั้งใหญ่!
ช่วงนั้นพล.ต.อ.จักรทิพย์ เริ่มออกเดินสายตรวจเยี่ยมโรงพักในภูมิภาคหลายจังหวัด เริ่มจากภาคใต้ ขึ้นไปทางภาคอีสาน
การปั่นชื่อพล.ต.อ.จักรทิพย์ไปเป็นรัฐมนตรีก็เริ่มขึ้น ทั้งที่คนมีอำนาจปรับครม. ก็ไม่เคยติดต่อทาบทามส่งสัญญาณอะไรเลย
ขณะที่ใครใช้เหตุผลและมีสติ ย่อมรู้สึกสงสัยว่า ถ้าจะไปเป็นรัฐมนตรี แล้วทำไมยังทุ่มเททำงานในหน้าที่ผบ.ตร.อยู่
ขัดกับวิสัยของคนที่จะต้องพ้นจากเก้าอี้นี้
มาในสัปดาห์นี้ ตั้งแต่วันที่ 13 พฤศจิกายน ผบ.ตร.ยกคณะบินไปสหรัฐ เพื่อร่วมประชุมกับหน่วยงานด้านตำรวจ เช่น เอฟบีไอ
ไปยาวนับสัปดาห์ กำหนดกลับวันอาทิตย์ที่ 19 พฤศจิกายน
ทั้งที่เป็นช่วงการจัดโผครม.กำลังเข้มข้น กำลังจะปิดโผนำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าฯอยู่แล้ว!
ถ้าบิ๊กแป๊ะ กำลังจะเตรียมตัวเป็นรัฐมนตรีจริงๆ
มีแต่จะต้องปักหลักอยู่ในกทม.
เพื่อเตรียมตัวเข้าร่วมในรัฐบาลซึ่งมีขั้นตอนมากมาย
ไม่ใช่ยังไปทำหน้าที่ผบ.ตร.ของไทยอยู่ที่เมืองนอก ไปใส่สูทเดินยิ้มร่าอยู่ในวอชิงตัน ดี.ซี.โน่น!
การที่เจ้ากรมข่าวลือเน้นมาที่พล.ต.อ.จักรทิพย์ จะดันให้ไปเป็นรัฐมนตรีให้ได้นี้ ประเด็นก็อยู่ที่เก้าอี้ผบ.ตร.นั่นแหละ เพราะบิ๊กแป๊ะมีอายุราชการยาวนานถึงปี 2563
เริ่มนั่งเก้าอี้ผบ.ตร.ตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2558 ถึงขณะนี้ก็ 2 ปีเศษแล้ว เหลืออีกเกือบ 3 ปี
ความที่ตำแหน่งผบ.ตร.นั้น เต็มไปด้วยอาถรรพณ์ ถ้านั่งเกินกว่า 1 ปีขึ้นไป ก็เป็นเรื่องยากที่จะอยู่จนครบวาระได้
ต้องคอยดูกันต่อไปว่าบิ๊กแป๊ะจะทำลายสถิติได้ หรือไม่
แต่ที่แน่ๆหนนี้ เจ้ากรมข่าวลือได้แค่สร้าง ข่าวลือ แล้วก็เงียบหายไป!
