“วงค์ ตาวัน”
เดิมทีในคดีขับรถชนคนตายนั้น ครูจอมทรัพย์ แสน เมืองโคตร ต้องโทษจำคุกตามคำพิพากษาของศาลเป็นเวลา 3 ปี 2 เดือน แต่ติดจริง 1 ปี 6 เดือน โดยได้ลดโทษตามขั้นตอน แต่ผลจากการดิ้นรนเพื่อขอให้รื้อฟื้นคดี ด้วยข้ออ้างว่าตนเองเป็นแพะ ถูกตำรวจยัดเยียดความผิดให้อย่างไม่เป็นธรรม
วันนี้ครูจอมทรัพย์และพวก ถูกจับกุมยกโขยง ฐานให้การเท็จ ไปจนถึงการร่วมกันเป็นขบวนการรับจ้างติดคุก
ปรากฏว่า ตัวละครสำคัญคือครูอ๋อง และนายสับ วาปี ให้การสารภาพและแฉถึงการว่าจ้างอย่างละเอียด
คงต้องติดคุกกันระนาว
ตัวครูจอมทรัพย์มีแนวโน้มว่าอาจจะต้องกลับเข้าคุก อีกรอบ
แทนที่จะใช้ชีวิตอย่างสงบสุขหลังได้รับอิสรภาพ
เพราะไปดิ้นรน ไปวางแผนกันมากไป คราวนี้ไม่แค่คนเดียว แต่จะโดนกันทั้งโขยง!
แต่อันที่จริง ทั้งหลายทั้งปวงนี้ ไม่ได้ซับซ้อนอะไรเลย
หลังจากที่ครูจอมทรัพย์เข้าร้องเรียนกับกระทรวงยุติธรรม เพื่อขอความช่วยเหลือให้รื้อฟื้นคดี ด้วยการกล่าวหาว่าตำรวจทำคดีแบบไม่เป็นธรรม
กระบวนการตรวจสอบหาความจริง ควรจะทำได้ ไม่ยาก!
พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ตรวจสอบลงไปยังตำรวจในพื้นที่ก็ได้ข้อมูลพร้อมหลักฐานมากมาย ครั้งส่งพล.ต.อ.ปัญญา มาเม่น จเรตำรวจแห่งชาติ ลงไปดูซ้ำอีกหน คราวนี้เห็นเบื้องหน้าเบื้องหลังทะลุปรุโปร่ง
ท่าทีของตำรวจจึงชัดเจนหนักแน่นตั้งแต่แรก เตือนกลับด้วยว่าระวังจะมีคดีแจ้งความเท็จ
นักข่าวเอง ลงตรวจสอบข้อมูลในพื้นที่ ก็ได้รับข่าวสารอะไรมากมาย!
การร้องเรียนของครูจอมทรัพย์ จะไม่เป็นเรื่องราวบานปลาย จนกระทั่งกำลังจะต้องติดคุกกันอีกรอบเช่นนี้ ถ้าหากมีการกลั่นกรองกันให้รอบคอบ
จุดสำคัญ ที่ทำให้เกิดกระแสหลงใหลไปกับครู จอมทรัพย์จนเข้ารกเข้าพงไปตามๆ กัน
มาจากความอยากมีชื่อเสียงของคนจำนวนหนึ่ง
ความอคติเกลียดชังตำรวจของพวกหน้ามืดตามัวทางการเมือง!
ถึงขั้นหวังกันมากว่า คดีครูจอมทรัพย์นี่แหละ จะเป็นกระแสที่นำไปสู่การผ่าตัดองค์กรตำรวจ ลดอำนาจการสอบสวนแยกออกไปให้หน่วยราชการอื่น
วันนี้ทุกอย่างพลิกกลับ เครดิตงานสืบสวนสอบสวนกลับคืนสู่ตำรวจ
อันที่จริง การร้องเรียนตำรวจทำคดีไม่เป็นธรรมนั้น ย่อมสามารถทำได้ ถัดจากนี้ถ้าใครโดนจับผิดตัวเป็นแพะจริงๆ จะต้องทวงถามความถูกต้อง
โดยองค์กรตำรวจต้องเปิดใจกว้างรับฟัง
แต่ไม่ใช่ทำกันอย่างมีเบื้องหน้าเบื้องหลังและตื้นๆ เช่นครูจอมทรัพย์นี้!