“วงค์ ตาวัน”

ภัยจากมิจฉาชีพที่สามารถเข้าถึงตัวประชาชนได้มากที่สุด หลอกลวงเงินทองจากเหยื่อได้อย่างร้ายกาจที่สุดในยุคนี้ คือภัยจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยวายร้ายพวกนี้ไม่ต้องออกมาดักรอหรือตระเวนหาเหยื่อเพื่อปล้นจี้ชิงทรัพย์ตามท้องถนน

เหยื่อนอนอยู่ในบ้านดีๆ ก็สามารถโทร.เข้ามือถือ แล้วล่อลวงออกมากดเงินโอนไปให้จากตู้เอทีเอ็ม สูญกันไปทีละนับล้าน

ขณะที่ตำรวจเอง ก็เร่งกวาดล้างปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ แต่ก็ไม่หมดสิ้นไปเสียที เนื่องจากแก๊งเหล่านี้ทำงานข้ามชาติ

เราจะเห็นข่าวการทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์รายใหญ่ๆ อยู่บ่อยๆ

โดยพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. มอบหมายให้ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รักษาการรอง ผบช.ท่องเที่ยว ที่เชี่ยวชำนาญออกไล่ล่าแก๊งวายร้ายแนวนี้ มีผลงานลากคอมาให้สังคมได้รับรู้อย่างถี่ยิบ!

รายล่าสุดเป็นแก๊งใหญ่โตมโหฬาร นำโดยนายทอมมี่ วู ชาวอินโดนีเซีย ยึดทรัพย์สินได้มากถึง 120 ล้านบาท

เครือข่ายมีหลายจังหวัด ฐานปฏิบัติการอยู่ถึงฟิลิปปินส์ และประเทศเพื่อนบ้านของเรา

หมดจากแก๊งอินโดฯ ก็ยังคงมีอีกหลายแก๊ง และจะมีรายใหม่ๆ ไม่สิ้นสุด

ตราบใดที่ประชาชนทั่วไป ยังไม่รู้เท่าทัน

แม้ตำรวจจะกระชากโฉมมิจฉาชีพแนวนี้มาให้เห็นกันหลายต่อหลายแก๊ง อธิบายวิธีการหลอกลวงล้วงเอาเงินของประชาชนให้รับรู้กันถ้วนหน้า

โดยแอบอ้างเป็นหน่วยงานรัฐ เช่น สรรพากร สตง. ปปง. ป.ป.ช. ป.ป.ส. ไปรษณีย์ หรืออ้างชื่อธนาคารบ้าง

แล้วใช้โทรศัพท์ผ่านระบบอินเตอร์เน็ต

สามารถเอาเบอร์ของหน่วยราชการจริงมาสวมเพื่อให้ดูแนบเนียนได้!

สุ่มโทร.เบอร์มือถือ ไปเข้าเครื่องใคร ก็จะแต่งนิยายว่าการทำธุรกรรม การส่งไปรษณีย์ ไปเกี่ยวพันกับแก๊งผิดกฎหมาย หรือต้องโดนภาษีมหาศาล ลงเอยให้รีบโอนเงินมาเพื่อจะได้ยุติปัญหาเร่งด่วน

บางครั้งก็อ้างเครื่องดื่มยี่ห้อดัง ที่กำลังแจกรถ บอกว่าท่านเป็นผู้โชคดี แต่ขอให้โอนเงินค่าภาษีมาก่อน

พวกนี้ตำรวจก็จับมาเปิดโปงให้เห็นกันหมด

แต่พอคนร้ายแก๊งอื่นพลิกแพลงมุขที่ใช้หลอกลวง ก็จะมีคนสูญเสียเงินทองไม่สิ้นสุด!

ด้วยคนร้ายเหล่านี้ มีหลักจิตวิทยาในการพูด ในการครอบงำ กระตุ้นความรู้สึกตกใจกลัว

ที่สำคัญรู้ถึงจุดอ่อนของสังคมไทย

นั่นคือ มีปัญหาอะไร ถ้าเคลียร์กันใต้โต๊ะได้ ก็จะรีบทำ

ถ้าสังคมไทยเราไม่แก้ไขค่านิยมแบบนี้ ให้ยึดตรงไปตรงมา ผิดถูกว่ากันตามกฎหมาย

ตราบนั้นก็ยังเข้าทางแก๊งคอลเซ็นเตอร์!

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน