“วงค์ ตาวัน”
ศาลอาญามีคำพิพากษาคดีระเบิดไปป์บอมบ์ใน โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้าแล้ว โดยให้จำคุก ผู้ก่อเหตุ เป็นเวลา 26 ปีกับ 12 เดือน และยังมีคดีระเบิดอื่นๆ ที่เคยก่อเหตุ รอคิวดำเนินคดีอยู่
นายวัฒนา ภุมเรศ วัย 62 ปี อดีตวิศวกรกฟผ. หรือที่เรียกกันว่าลุงวิศวะมือระเบิด ให้การรับสารภาพหมดทั้งคดีนี้ และคดีไปป์บอมบ์ ในกทม.ก่อนหน้านั้นอีกหลายเหตุ
ต้องรับโทษตามกฎหมาย ชดใช้ความผิดไปตามกระบวนการ!
คดีนี้ถือเป็นเครดิตงานสืบสวนของตำรวจ ซึ่งทุ่มเทแกะรอยจนถึงตัวผู้ก่อเหตุได้ ซึ่งโดยปกติ การจับกุมคดีวางระเบิดถือว่ายากมากๆ
เป็นผลงานที่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ลงสนามนำทีมสืบสวนด้วยตัวเอง
จับกุมได้โดยมีพยานหลักฐานแน่นหนา ค้นในบ้านพักของผู้ถูกจับกุม ก็มีพยานหลักฐานตรงกับที่เกิดเหตุ
ลุงวัฒนายอมสารภาพโดยดี
รับด้วยว่า ทำแบบนี้มาแล้ว 4-5 ครั้ง ตั้งแต่ปี 2550 เพื่อต่อต้านการรัฐประหาร และที่โรงพยาบาลพระมงกุฎฯเลือกวันที่ 22 พฤษภาคม ในการก่อเหตุ เพื่อแสดงสัญลักษณ์ชัดเจน
จุดสำคัญคือ คิดเองทำเอง ตามความเชื่อและอุดมการณ์ ไม่มีใครจ้างวาน ไม่มีขบวนการไหนเกี่ยวข้อง
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ พูดเองว่า เป็นพวกอิสระหรือโลนวูล์ฟ!
เป็นพฤติกรรมที่ต้องศึกษาเพื่อป้องกัน
ไม่รู้ว่าจะมีโลนวูล์ฟรายอื่นๆ อีกหรือไม่!?
แต่อย่างน้อย การที่ตำรวจสืบจับได้ หลังจากที่ลุงวัฒนาลงมือมาหลายหน โดยก่อนหน้านี้รอดพ้นการถูกจับมา ได้ตลอด
ด้วยประสิทธิภาพตำรวจ การแกะรอยวงจรปิด การใช้เทคโนโลยียุคใหม่ ที่สามารถติดตามได้อย่างแม่นยำ
คงทำให้ใครที่คิดจะก่อเหตุรุนแรง ต้องคิดมาก
บทเรียนจากคดีนี้ อีกด้านหนึ่งต้องเรียนรู้กันว่า การไม่ยอมรับวิธีล้มประชาธิปไตยนั้น มีประชาชน บางส่วนเขาไม่ยอมจริงๆ
แสดงออกในการต่อต้าน ด้วยตัวเอง ไม่ต้องมีใครจ้าง
แต่การใช้ระเบิด ทำให้คนอื่นเดือดร้อนไปด้วย ไม่ควรสนับสนุน!
แต่ก็ชัดเจนว่าไม่เกี่ยวกับขบวนการใดๆ หรือนักการเมืองคนไหน พรรคไหน
ตลอด 3 ปีเศษ ในยุคคสช. เกิดเหตุวางระเบิด ร้ายแรง เช่น ที่ศาลพระพรหม ในปี 2558 ตำรวจจับกุมได้พร้อมพยานหลักฐาน เป็นชาวอุยกูร์ โกรธแค้นนโยบายผู้อพยพ
วางระเบิดทั่ว 7 จังหวัดภาคใต้ตอนบน ในปี 2559 ฝีมือขบวนการไฟใต้
เอาเข้าจริงๆ ยังไม่มีเหตุรุนแรงจากขบวนการการเมือง หรือนักการเมืองเลย!
