“วงค์ ตาวัน”
บรรดากองหนุนรัฐบาลคสช. กำลังวุ่นวายใจกันอย่างหนัก อุตส่าห์ไปเป่านกหวีดจนประชาธิปไตยหยุดชะงัก เพื่อให้มีการปฏิรูปไปยาวนานที่สุด มีเลือกตั้งช้าที่สุด แต่วันนี้สถานการณ์ของอำนาจที่ไม่มาจากการเลือกตั้ง ชักไม่น่าไว้วางใจ
แต่แทนที่จะมองสภาพความเป็นจริงที่ว่า ไม่มีใครหมุนโลกให้ถอยหลังได้
กลับไปโทษบิ๊กป้อมเพียงผู้เดียว ว่ากำลังเป็นผู้สร้างปัญหาให้กับลุงตู่
เลยแห่กันมาตีบิ๊กป้อม เพื่อปกป้องบิ๊กตู่
ถึงขั้นสร้างกระแสกดดันเรียกร้องให้บิ๊กป้อมลาออก เรียกร้องให้เสียสละเพื่อรักษาส่วนใหญ่ของคสช.เอาไว้
จนเมื่อไม่กี่วันก่อน บิ๊กป้อมต้องออกมาตอบว่า ลาออกแน่ ลาออกเองได้ ถ้าผลการตรวจสอบของป.ป.ช.ชี้ว่าผิด!
กรณีนาฬิกาหลายเรือนที่ทำให้บิ๊กป้อมตกเป็นเป้าโดนถล่ม โดยคนกันเอง โดยพวกกองหนุนทั้งหลายนั้น
จะพบว่า คนที่เรียกร้องให้ตรวจสอบซึ่งมองด้วย หลักการ ไม่ได้มีเป้าหมายการเมืองซ่อนเร้น จะมีท่าทีชัดเจนอย่างหนึ่ง
นั่นคือ มักจะกล่าวถึงปัญหานาฬิกาด้วยสาระและหลักการ เช่น เรียกร้องระบบตรวจสอบที่ตรงไปตรงมา
ที่สำคัญไม่มองว่า นี่เป็นเรื่องตัวบุคคล แต่เป็นเรื่องของช่วงรัฐบาลอำนาจพิเศษ ทำให้ประชาชนไม่มีส่วนร่วม ยิ่งทำให้ตรวจสอบได้ยาก
ทั้งเห็นว่า มีแต่ต้องเร่งคืนประชาธิปไตย ทำให้การเมืองเข้าสู่ความเป็นปกติ จะมีบรรยากาศสอดส่องผู้มีอำนาจที่เปิดกว้างกว่า
จุดหลักคือมองว่านี่คือปัญหาของระบบรัฐบาลทหารทั้งคณะ ไม่ใช่เรื่องคนคนเดียว!!
แต่ถ้าเป็นพวกเดียวกัน พวกกองหนุน จะมุ่งเน้นไปโทษ ที่ตัวบุคคลคือบิ๊กป้อม
ถึงขั้นมองว่าถ้าบิ๊กป้อมออกไปตอนนี้ จะทำให้บิ๊กตู่อยู่ได้อีกนาน
นี่คือการโทษปัญหาของระบบรัฐบาลทหาร ไปใส่คนที่ตกเป็นเป้าเพียงรายเดียว
แถมต่อสู้เรื่องนาฬิกา เพื่อหวังเล่นงานบิ๊กป้อมคนเดียว ด้วยมีเจตนาจะปกป้องรัฐบาลทหารให้อยู่ไปยาวนาน
บางรายยังคิดแบบไร้เดียงสาว่า บิ๊กตู่กับบิ๊กป้อม นั้นแตกต่างกันอย่างมากมาย ถ้าไม่อยู่ด้วยกันจะดี กว่านี้!?!
ไม่เรียนรู้ว่า บิ๊กตู่กับบิ๊กป้อมนั้น กอดคอร่วมกันมาขนาดไหน มองตาก็รู้ใจกันตลอด ทำอะไรก็รู้กันแน่ๆ บุคลิก ที่ต่างก็แค่การเล่นกันคนละบทบาท
มาด้วยกันไปด้วยกัน ไม่มีทางแยกออกจากกันได้!!
อีกทั้งจะพบว่า พวกเดียวกัน กองหนุนด้วยกัน มุ่งเล่นงานบิ๊กป้อมมานานแล้ว ก่อนจะมีนาฬิกาโผล่ออกมา
ปรับครม.คราวที่แล้วก็ปั่นกระแสลดตำแหน่งเหลือ เก้าอี้เดียว
การโจมตีเรื่องนาฬิกา ก็แค่มีรูปธรรมใหม่มาประกอบเท่านั้นเอง!