คอลัมน์ รายงานพิเศษ : พัฒนาออทิสติก-เด็กพิเศษ ด้วยโปรแกรม‘THAI Model’จากมหิดล
พัฒนาออทิสติก-เด็กพิเศษ – ปัญหาเด็กที่มีพัฒนาการล่าช้า หรือเด็กพิเศษ ในสังคมไทยนั้น ยังเป็นปัญหาสำคัญที่ควรจะต้องได้รับการแก้ไข
และดูแลอย่างถูกวิธี ในเด็กปฐมวัยถือเป็นช่วงวัยที่สมองกำลังมีการพัฒนา ครอบคลุมถึงพัฒนาการทางร่างกาย อารมณ์ และจิตใจ จึงควรได้รับการพัฒนาทั้งทางด้านร่างกาย และจิตใจอย่างถูกวิธี
ผลวิจัยพบว่า ในกลุ่มเด็กปฐมวัยที่มีพัฒนาการสงสัยว่าล่าช้า เด็กกลุ่มนี้จะมีพัฒนาการที่ล่าช้าที่พบมาก คือ พัฒนาการด้านภาษาและการใช้กล้ามเนื้อมัดเล็ก ซึ่งมีความเกี่ยวพันถึงกับความฉลาดและสติปัญญา ซึ่งเด็กที่ไม่ได้รับการแก้ไขพัฒนาการที่ผิดปกติอย่างถูกวิธี ก็จะกลายเป็นปัญหาในระยะยาวต่อครอบครัวและสังคม
สถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว มหาวิทยาลัยมหิดล จึงได้สร้างโปรแกรม THAI Model (Thai Home-based Autism Intervention Model) เพื่อช่วย ผู้ปกครองในการส่งเสริมพัฒนาการเด็กออทิสติก เด็กพิเศษ ที่บ้าน ผ่านการเล่นและกิจวัตรประจำวันในครอบครัว
ซึ่งตัวโปรแกรมจะเน้นความสัมพันธ์ในเรื่องความผาสุกของครอบครัว ถ้าพ่อแม่ไม่มีความสุขในการฝึกสอนพัฒนาการเด็กแล้ว ตัวเด็กก็ไม่สามารถที่จะดีขึ้นได้ พ่อแม่ต้องเชื่อก่อนว่าพื้นฐานสำคัญ
คือ เมื่อเด็กมีความสุข มีแรงจูงใจอยากเรียนรู้แล้ว เรื่องต่างๆ จะง่ายขึ้น พ่อแม่ส่วนใหญ่มักหลงลืมในส่วนนี้ไป THAI Model จึงเน้นการสอนเทคนิควิธีการต่างๆ ในการสร้างความสัมพันธ์ สร้างแรงจูงใจให้เด็กเกิดการอยากเรียนรู้ที่บ้านได้
สถาบัน นำองค์ความรู้ ที่ร่วมกับพ่อแม่ ผู้ปกครอง ในการดูแลเด็กออทิสติก มาศึกษาวิจัยจนเกิดเป็น THAI Model และนำมาเผยแพร่ให้พ่อแม่ ผู้ปกครอง ที่ต้องดูแลเด็กเหล่านี้ได้นำไปใช้ประโยชน์ในการฝึกพัฒนาการด้านต่างๆ ของเด็กอย่างถูกวิธี
ผศ.พญ.แก้วตา นพมณีจำรัสเลิศ รอง ผู้อำนวยการฝ่ายบริการคลินิกและศูนย์พัฒนาเด็กปฐมวัย กล่าวว่า ประเทศไทยถือว่ามีความพร้อมในด้านการรักษาเด็กพิเศษเป็นอย่างมาก ตั้งแต่ระดับนโยบาย มีระบบสาธารณสุขที่ดี
แต่ที่ยังขาดคือองค์ความรู้ที่สามารถนำไปใช้ในระดับครอบครัว ที่พ่อแม่สามารถนำปฏิบัติต่อลูกได้ สถาบัน จึงให้ความสำคัญต่อพ่อแม่ ผู้ปกครองซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่มีผลทำให้เด็กพัฒนาการดีขึ้น
ดังนั้นพ่อแม่ควรต้องมีพื้นฐานในการดูแลเด็กออทิสติก เด็กพิเศษ โดยเน้นในมิติของสัมพันธภาพเชิงบวก การสร้างแรงจูงใจ การสร้างเสียงหัวเราะในการเล่นกับลูก เพราะพ่อแม่ส่วนใหญ่มักจะมองในแง่ความบกพร่องของเด็ก และคาดหวังว่าเด็กจะดีขึ้นจากการรักษาด้วยวิธีต่างๆ จากผู้เชี่ยวชาญ
จนลืมสร้างความสุข และแรงจูงใจอยากเรียนรู้ ให้เกิดขึ้นกับเด็ก ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญ ของการสร้างพัฒนาการให้แก่เด็กอย่างมีประสิทธิภาพ
ผู้ที่สนใจสามารถเข้าไปเรียนรู้วิธีในการดูแลลูกได้ที่ https://www.mahidolclinic .com/ หรือทางช่อง Youtube Channel : Mahidol Clinic