ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการเปิดให้ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เข้าลงทะเบียนในมาตรการยกระดับผู้ลงทะเบียนสวัสดิการแห่งรัฐ หรือบัตรคนจนระยะ 2 ในวันแรก 1 ก.พ. 2561 มีประชาชนทยอยลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการไม่มากนัก เนื่องจากหลายพื้นที่ยังมีการประชาสัมพันธ์น้อย
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของธนาคารออมสิน สำนักงานใหญ่ได้จัดเตรียมพื้นที่ และเจ้าหน้าที่ประจำเคาน์เตอร์ไว้อำนวยความสะดวก โดยมีผู้มีรายได้น้อยเข้ามาลงทะเบียนบ้างเพราะเชื่อจะทำให้ตนเองมีรายได้เพิ่มขึ้น แต่บางส่วนก็มาสอบถามแต่ไม่ได้ลงทะเบียน เนื่องจากกลัวเวลาในการอบรมไม่ตรงกับที่ว่าง และโครงการไม่เหมาะกับความถนัดของตนเอง
นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ในการเปิดให้ลงทะเบียนมาตรการยกระดับผู้ลงทะเบียนฯ ในวันแรก มีประชาชนเดินทางเข้ามาลงทะเบียนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหลังจากลงทะเบียนแล้วจะมีทีมหมอประชารัฐสุขใจ (เอโอ) ซึ่งช่วงแรกจะเป็นเจ้าหน้าที่จากธนาคารออมสิน และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กว่า 4,000 ราย ทยอยลงพื้นที่ไปรับฟังปัญหาและแนะนำแนวทางการพัฒนาคุณภาพชีวิตให้
“มาตรการยกระดับผู้ลงทะเบียนฯ จะมีการทยอยทำไปและไม่เสร็จทีเดียว 11.4 ล้านคน แต่จะมีเอโอที่เป็นเจ้าหน้าที่แบงก์รัฐ และที่ว่าจ้างเพิ่มเข้ามาทยอยลงทำหน้าที่ให้คำแนะนำเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตให้ ซึ่งมีทั้งการฝึกทักษะอาชีพ การหางานให้ทำที่มีมากกว่า 1 แสนอัตราทั้งในและต่างประเทศ การส่งเสริมให้ได้เรียนหนังสือ การให้สินเชื่อเพื่อสร้างผู้ประกอบการ ตลอดจนจะมีการหาที่ทำกิน ที่พักอาศัย หรือประกันอุบัติเหตุรายย่อย ซึ่งมั่นใจว่าจะครอบคลุมทุกมิติในการช่วยพัฒนาให้พ้นเส้นความยากจนได้ ขณะเดียวในการประชุมไทยนิยมของรัฐบาลวันที่ 8-9 ก.พ.นี้ คลังจะร่วมกับหลายๆหน่วยงาน เช่น พาณิชย์จังหวัด กระทรวงมหาดไทย ในการนำมาตรการนี้เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในโครงการไทยนิยมด้วย”
นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กล่าวว่า ขณะนี้ประชาชนยังไม่รับทราบข้อมูลข่าวสารการลงทะเบียนมากนัก อาจทำให้มีจำนวนที่มาลงทะเบียนยังน้อยจึงต้องประชาสัมพันธ์ในเรื่องของสถานที่สำหรับรับลงทะเบียนให้ประชาชนรับทราบอย่างทั่วถึง โดยผู้ที่ต้องการจะมาลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ จะต้องเป็นผู้มีรายได้น้อยที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โดยนำบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและบัตรประชาชนเข้าแจ้งความประสงค์กับเจ้าหน้าที่ได้ตั้งแต่วันนี้จนถึง 28 ก.พ.นี้
ทั้งนี้ รัฐบาลได้จัดให้มีหมอประชารัฐสุขใจ 4,000 คน แบ่งเป็นธนาคารออมสิน 2,000 คนและ ธ.ก.ส. 2,000 คน กระจายทั่วทุกจุดที่จะเข้ามาทำหน้าที่ให้ข้อมูลกับผู้มีรายได้น้อย โดยโครงการฝึกอาชีพจะมีให้เลือกทั้งหมด 597 อาชีพ รองรับได้ 4 ล้านคนในปีนี้ ผู้ที่เข้าร่วมโครงการและฝึกอบรมกรณีที่รายได้ไม่ถึง 30,000 บาทต่อปีจะได้วงเงินช่วยเหลือเพิ่มอีก 200 บาทต่อเดือน ส่วนผู้ที่มีรายได้ตั้งแต่ 30,000 บาทขึ้นไป แต่ไม่เกิน 1 แสนบาทต่อปี จะได้วงเงินช่วยเหลือเพิ่ม 100 บาทต่อเดือน
