การช่วยเหลือเหตุไฟไหม้สุพรรณ

บก.ตอบจดหมาย

การช่วยเหลือเหตุไฟไหม้สุพรรณ

เรื่อง รายงานผลการให้ความช่วยเหลือนายปั่น ชูจันทร์

เรียน บรรณาธิการหนังสือพิมพ์ข่าวสด

ตามที่ เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2559 แหล่งข่าว ข่าวสดออนไลน์ ได้นำเสนอข่าว “ไหม้ระทึกกลางเมืองสุพรรณ ยายวัย 73 ปี กัดฟันอุ้มตาวัย 74 ปี ป่วยเป็นอัมพาตหนีตายจนตัวเองบาดเจ็บ” โดยเหตุเกิดที่บ้านเลขที่ 15 หมู่ 2 ตำบลโคกโคเฒ่า อำเภอเมืองสุพรรณบุรี จังหวัดสุพรรณบุรี นั้น

ในวันที่ 22 สิงหาคม 2559 จังหวัดสุพรรณบุรี ได้มอบหมายให้สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสุพรรณบุรี ลงพื้นที่เยี่ยมบ้านเพื่อสอบข้อเท็จจริง มีรายละเอียด ดังนี้

1. เจ้าของบ้านชื่อ นายปั่น ชูจันทร์ มีอายุ 74 ปี มีความพิการทางการเคลื่อนไหวโดยขาทั้งสองข้างไม่มีแรง แต่สามารถเคลื่อนไหวตัวเองได้โดยใช้ไม้ค้ำยัน และสามารถช่วยเหลือตัวเองได้ตามปกติ ได้รับเบี้ยความพิการ และเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ รวมจำนวน 1,500 บาท จากองค์การบริหารส่วนตำบลโคก โคเฒ่า ภรรยาชื่อ นางทองปลิว ชูจันทร์ อายุ 73 ปี ประกอบอาชีพประกอบอาหารอยู่ที่มหาวิทยาลัยสวนดุสิต วิทยาเขตสุพรรณบุรี มีบุตรด้วยกันจำนวน 4 คน ดังนี้ 1. นางวรรณา ชูจันทร์ อายุ 44 ปี ประกอบอาชีพเป็นพนักงานประกอบอาหารอยู่ที่มหาวิทยาลัยสวนดุสิต วิทยาเขตสุพรรณบุรี มีรายได้ 9,000 บาทต่อเดือน 2. นางสาวอารีวรรณ ชูจันทร์ อายุ 42 ปี ประกอบอาชีพรับจ้างก่อสร้างที่กรุงเทพมหานคร 3. นางสาวชมพู่ ชูจันทร์ อายุ 38 ปี อาศัยอยู่กรุงเทพมหานครกับสามีซึ่งประกอบอาชีพเป็นพนักงานประกอบอาหารที่โรงแรมในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และ 4. นายฟ้ารุ่ง ชูจันทร์ อายุ 32 ปี ประกอบอาชีพเป็นพนักงานขายอาหาร (เคเอฟซี) อยู่ที่ห้างสรรพสินค้าโรบินสันสุพรรณบุรี มีรายได้ 9,000 บาทต่อเดือน โดยบุตรทั้ง 4 คนต่างแยกครอบครัวออกไปทุกคน ซึ่งบางคนอาศัยอยู่ในละแวกเดียวกัน และทุกคนต่างแวะเวียนมาให้การดูแล นายปั่น และนางทองปลิว ผู้เป็นบิดามารดาอย่างสม่ำเสมอ

2. นายปั่นให้ข้อมูลว่าบ้านของตนเป็นบ้านไม้ชั้นเดียวยกพื้นสูง หลังคามุงสังกะสี และในวันที่ 21 สิงหาคม 2559 มีสมาชิกอาศัยอยู่ในบ้านหลังดังกล่าว จำนวน 3 คน ประกอบด้วย นายปั่น นางทองปลิว และนายพีรพล ขำเขียว ซึ่งเป็นหลานชาย อายุ 20 ปี เวลาประมาณ 12.00 น. เกิดประกายไฟที่สายไฟฟ้าภายในบ้าน ต่อมาเกิดเปลวไฟลุกลามบ้านของตนอย่างรวดเร็ว ขณะนั้นนางทองปลิว ซึ่งอยู่ข้างล่าง เมื่อเห็นเปลวไฟจึงรีบขึ้นมาบนบ้านเพื่อประคองนายปั่น ออกจากเหตุการณ์ดังกล่าวอย่างปลอดภัยและไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด ขณะเดียวกันนายพีรพล ซึ่งเป็นหลานชายกำลังนั่งรับประทานอาหารอยู่ภายในบ้านได้ลุกขึ้นไปดับไฟแต่ไม่สามารถควบคุมได้ และได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยจากการโดนไฟคลอกบริเวณใบหน้า และหลัง ซึ่งได้เข้ารับการรักษาบาดแผลแล้วที่โรงพยาบาลบางปลาม้า

3. สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสุพรรณบุรี ได้พิจารณาให้ความช่วยเหลือนายปั่น ดังนี้

3.1 มอบเงินช่วยเหลือผู้ประสบปัญหาทางสังคมกรณีฉุกเฉิน เป็นเงินจำนวน 2,000 บาท และเครื่องอุปโภคบริโภค จำนวน 1 ชุด

3.2 ร่วมกับองค์การบริหารส่วนตำบลโคกโคเฒ่า ดำเนินการปรับสภาพที่อยู่อาศัยสำหรับคนพิการ โดยใช้แหล่งงบประมาณจากกองสลากกินแบ่งรัฐบาล จำนวน 30,000 บาท และกองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ จำนวน 20,000 บาท รวมจำนวนทั้งสิ้น 50,000 บาท (ห้าหมื่นบาทถ้วน) ซึ่งในเบื้องต้นองค์การบริหารส่วนตำบลโคกโคเฒ่า ได้จัดหาที่พักให้ครอบครัวของนายปั่น อาศัยชั่วคราว และให้บริการสวัสดิการทางสังคมขั้นพื้นฐานตามความเหมาะสม ขณะเดียวกันชุมชนได้ร่วมกันบริจาคเสื้อผ้า และเครื่องอุปโภคบริโภคให้แก่ครอบครัวนายปั่นด้วย

จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ และจะดำเนินการติดตามให้ความช่วยเหลือนายปั่น ชูจันทร์ และครอบครัว เป็นระยะๆ ต่อไป

ขอแสดงความนับถือ

นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี

รองผู้ว่าราชการจังหวัด ปฏิบัติราชการแทน ผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี