โพล 2 สำนักทำไมต่างกัน / ถ้าไม่ให้มอเตอร์ไซค์ขึ้นฟุตปาธ @บ.ก.ตอบจดหมาย
โพล 2 สำนักทำไมต่างกัน
เรียน บ.ก.ข่าวสด
ผลสำรวจเรื่องคนไทยต้องการให้ใครมาเป็นนายกฯมากที่สุด ของสำนักสำรวจสองสำนักแตกต่างกัน คำถามก็คือแล้วจะเชื่อถือผลสำรวจของสำนักใด แต่ที่แน่ๆ ก็คือผลสำรวจชี้นำความคิดของประชาชนได้อย่างแน่นอน ดังนั้นคำถามต่อมาก็คือ “สมควรจะให้มีการเผยแพร่ผลสำรวจผ่านสื่อฯหรือไม่” เพราะในเมื่อผลสำรวจสามารถชี้นำความคิดของประชาชนได้ ก็อาจจะทำให้ผลการเลือกตั้งเบี่ยงเบนไป เพราะมีการใช้ผลสำรวจเยี่ยงการโฆษณาหาเสียง ในฐานะที่พอจะมีความรู้เรื่องสถิติการวิจัย หลงเหลืออยู่บ้าง พอจะให้ความเห็นได้ว่า ผลการสำรวจจะเชื่อถือได้มากน้อยแค่ไหนขึ้นอยู่กับว่าผู้ทำการสำรวจ ตามหลักวิชาสถิติสำหรับการวิจัยหรือไม่ เช่นจำนวนของผู้ถูกสำรวจกับประชากรมากน้อยเพียงใด มีการสุ่มสำรวจครบทุกกลุ่มอายุ อาชีพ การศึกษา เพศ และครอบคลุมหมดทั้งพื้นที่หรือไม่ คำถามที่ถามชี้นำหรือไม่ ครบถ้วนหรือไม่
แต่อย่างไรก็ตามผลสำรวจก็ใช่ว่าจะถูกต้องเสมอ และยังมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ดังนั้นจึงไม่ควรเผยแพร่ผลสำรวจก่อนการเลือกตั้ง ถ้าจะต้องการเผยแพร่ผลสำรวจ ก็น่าจะทำเอ็กซิตโพลหลังปิดหีบเลือกตั้งแล้วมากกว่า ใครจะน่าเชื่อถือมากกว่า ก็คงต้องแล้วแต่ว่าจะใช้ตรรกะอะไรในการตัดสิน เพราะดูเหมือนว่าคนไทยวันนี้ พอใจที่จะเชื่อเพราะเชื่อถือแหล่งข่าวมากกว่าข้อเท็จจริง อ้างอิงข่าวลือแบบไร้เหตุผลประกอบทางโลกโซเชี่ยล
ลุงกะป๊อ
ตอบลุงกะป๊อ
ผลการสำรวจของสองสำนัก ทำในช่วงเวลาที่ต่างกัน จึงทำให้ผลออกมาไม่ตรงกันได้ เพียงแต่ที่ทั้งสังคมกำลังวิจารณ์กัน กรณีนิด้าโพลสำรวจแล้วพบว่าแกนนำเพื่อไทยคะแนนแซงนายกฯคนปัจจุบันนั้น ของนิด้าโพล ทำทุกครั้งก็แถลงทุกครั้ง ทำให้เห็นความคืบหน้า เห็นการเปลี่ยนแปลงเป็นระยะๆ แต่เมื่อนิด้าโพลมีผลว่าเพื่อไทยแรงกว่า อีกสำนักก็รีบออกมาบอกว่านายกฯปัจจุบันแรงกว่า แถมอ้างอิงถึงการสำรวจก่อนหน้านี้หลายครั้ง ตรงนี้แหละที่ทั้งสังคมเขาขบขัน ทำไมสำนักนี้สำรวจมาหลายรอบ แต่ไม่เคยนำมาแถลง จู่ๆก็มาแถลงหลังจากนิโด้โพล แล้วอ้างสถิติย้อนหลังมาประกอบ ก็แปลกดี แต่ถึงที่สุดแล้วผลโพลก็ไม่ได้ส่งผลชี้ขาดอะไรมากนัก ความนิยมของประชาชนมีองค์ประกอบหลายอย่าง ไปตัดสินกันจริงๆ ในวันเลือกตั้ง
ถ้าไม่ให้มอเตอร์ไซค์ขึ้นฟุตปาธ
ถึง ข่าวสด
ถ้าไม่อยากให้รถจักรยนต์ขึ้นไปวิ่งบนทางเท้า น่าจะทำทางให้รถจักรยานยนต์ได้วิ่งสักเลนหนึ่ง ต้องยอมรับว่า รถจักรยานยนต์ในปัจจุบันมีมากขึ้นเรื่อยๆ ที่วิ่งบนท้องถนน อย่างหนึ่งคือปัญหาการจราจรที่ติดขัด ทำให้คนหันมาใช้บริการรถจักรยานยนต์กันมากขึ้น การเพิ่มค่าปรับให้สูงขึ้นหวั่นว่าจะก่อให้เกิดผลเสียทั้งผู้จับกุม และผู้ทำผิดกฎ ผู้จับกุมระวังจะถูกข้อครหา ส่วนผู้ทำผิดกฎบางรายไม่ยอมจ่าย ไม่ยอมให้จับเร่งเครื่องหนีผลสุดท้ายอาจจะประสบอุบัติเหตุทำให้เสียชีวิตได้ ค่อยๆ หาทางออกให้สังคมอยู่ร่วมกันได้
ขาประจำ
ตอบคุณขาประจำ
ถือเป็นข้อเสนอแนะที่ดี คือ ควรหาทางออกให้จักรยานยนต์ด้วย ไม่ใช่เอาแต่ห้าม เอาแต่จับ เพียงแต่ในระยะเฉพาะหน้า ต้องยอมรับว่าถ้ามอเตอร์ไซค์ขึ้นไปวิ่งบนทางเท้า ก็เป็นอันตรายต่อคนเดินมากๆ ดังนั้นต้องเร่งป้องกันไม่ให้ใช้ทางเท้า พร้อมๆ กับต้องช่วยหาทางออกในระยะต่อไปด้วย
