บ.ก.ตอบจดหมาย : การกีดกั้นปิดกั้นธนาธร’/จากกัญชาถึงบุหรี่ไฟฟ้า

การกีดกั้นปิดกั้นธนาธร’/จากกัญชาถึงบุหรี่ไฟฟ้า : เรียน บ..ข่าวสด ชอบใจคุณบ..ลายจุด ที่โพสต์ข้อความว่า มันน่าขันที่มงคลกิตติ์เข้าสภาได้ แต่ธนาธรขาดคุณสมบัติ อ่านแล้วเป็นข้อความสั้นๆ แต่อธิบายความหมายได้มากมาย เห็นหมดเลยว่าสังคมไทยและการเมืองไทย ต้องการคนแบบไหน และพยายามปิดกั้นกีดกันคนแบบไหน แต่ก็ไม่เป็นไร เพราะการทำงานทางการเมืองของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ได้เปิดมิติใหม่ให้กับการเมืองไทย เป็นที่ยอมรับอย่างมาก ดังนั้น เชื่อว่าเลือกตั้งครั้งต่อๆไป พรรคอนาคตใหม่จะยิ่งเติบโตมากกว่านี้

ขอบคุณ

โลกหมุนไป

ตอบ คุณโลกหมุนไป

ใครจะปิดกั้นใครอย่างไรก็ตามที แต่ถึงเวลาเลือกตั้งประชาชนจะเป็นผู้ตัดสินเอง คนอื่นคงไม่สามารถปิดกั้นได้

จากกัญชาถึงบุหรี่ไฟฟ้า

เรียน บรรณาธิการ

ผมนายมาริษ กรัณยวัฒน์ ตัวแทนเครือข่ายผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้า ได้อ่านข่าวการลงทะเบียนครอบครองกัญชาแล้ว รู้สึกดีใจแทนผู้ป่วยที่จะได้แนวทางใหม่ในการรักษาโรค ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ กัญชาถูกมองว่าเป็นสารเสพติดอันตราย แต่ด้วยวิทยาการและผลการศึกษาใหม่ๆ ทำให้เชื่อได้ว่ากัญชาสามารถใช้รักษาโรคได้ และการปลดล็อกกัญชา จะช่วยให้ผู้ป่วย

โดยเฉพาะที่ป่วยจากโรคที่รักษาไม่ได้ ได้รับประโยชน์สูงสุด แต่เมื่อหันมาดูสถานการณ์ของผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้า ที่ต้องการแนวทางใหม่ๆ ในการลดอันตรายจากการควันบุหรี่และปกป้องสุขภาพของเราเอง แต่พวกเรากลับ ไม่ได้รับโอกาสนั้น เพราะบุหรี่ไฟฟ้ายังเป็นสินค้าที่ผิดกฎหมายในประเทศ

โดยมีการอ้างว่าบุหรี่ไฟฟ้าอันตราย ไม่ต่างจากบุหรี่ที่มีการเผาไหม้ ทั้งๆที่ความจริงแล้ว การจุดบุหรี่ก่อให้เกิดการเผาไหม้ มีควันซึ่งเต็มไปด้วยสารอันตรายมากมาย แต่บุหรี่ไฟฟ้าไม่มีการเผาไหม้ จึงปล่อยสารอันตรายออกมาน้อยกว่าการสูบบุหรี่เป็นอย่างมาก ซึ่งความจริงเหล่านี้เป็นที่ยอมรับในต่างประเทศ

เช่น สหรัฐอเมริกา อังกฤษ หรือสหภาพยุโรป มานานแล้ว แต่กลุ่มรณรงค์ต่อต้านบุหรี่ไทยกลับเลือกที่จะเดินสวนทาง มองข้ามประโยชน์ของบุหรี่ไฟฟ้าที่อาจจะช่วยลดอันตรายให้กับผู้สูบบุหรี่ได้ และสนับสนุนการแบนบุหรี่ไฟฟ้า โดยอ้างว่าบุหรี่ไฟฟ้ามีสารเคมีอันตรายที่ไม่มีในบุหรี่มวน

ทั้งที่ประเทศไทยมีการให้ความรู้ถึงพิษภัยและรณรงค์เลิกบุหรี่อย่างเข้มข้น โดยเฉพาะเดือนพฤษภาคมซึ่งมีวันงดสูบบุหรี่โลก โดยในปีนี้มีธีมในการรณรงค์คือบุหรี่เผาปอดแต่จำนวนผู้สูบบุหรี่บ้านเรากลับไม่ได้ลดลงมากนัก แถม ผู้เสียชีวิตจากการสูบบุหรี่ในปี 2560 ยังเพิ่มขึ้นเป็น 72,656 ราย หรือเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้ากว่า 10,000 คน และยังพบ ผู้เสียชีวิตจากควันบุหรี่มือสองมากขึ้นเป็น 8,278 ราย

ซึ่งหากรัฐบาลไทยต้องการปกป้องปอดของคนไทยให้ได้รับอันตรายจากการสูบบุหรี่และได้รับควันบุหรี่มือสองให้น้อยลง ก็น่าจะเปิดใจกับเรื่องบุหรี่ไฟฟ้าเหมือนในหลายๆ ประเทศ หรือเหมือนกับที่เปิดใจกับกัญชา เพื่อช่วยคนไทยที่สูบบุหรี่กว่า 10 ล้านคนให้เร็วที่สุด

ด้วยความเคารพ

มาริษ กรัณยวัฒน์

ตอบ คุณมาริษ

สิ่งที่คุณนำเสนอมา มีเหตุผลน่ารับฟัง ซึ่งก็น่ายินดีในกรณีกัญชา ที่ประเทศไทยเรายอมรับและนำมาใช้เพื่อการรักษา ผู้ป่วย ส่วนบุหรี่ไฟฟ้าก็คงคล้ายๆกับอีกหลายกรณี ที่จะ มีทัศนคติแนวอนุรักษนิยมมากำหนด ไม่ยอมคิดมุมใหม่ รวมทั้งอาจจะหมายถึงรายได้จากโรงงานยาสูบซึ่งหล่อเลี้ยงรัฐบาลอยู่

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน