เด็กสนใจการเมืองกันมาก/ข้อมูลจากเกษตรกรสวนปาล์มใต้/เหตุร้ายที่เกิดซ้ำซาก
คอลัมน์ บก.ตอบจดหมาย
เด็กสนใจการเมืองกันมาก
เรียน บ.ก.
ผมเป็นครูสอนวิทยาลัยเทคนิคของรัฐบาลในภาคกลาง เด็ก ปวช., ปวส.สนใจการเมืองกันมาก วันที่เลือกตั้งได้นายกรัฐมนตรี เด็กกลุ่มหนึ่งพูดว่าทำไมส.ว.ทำไม่เนียนเลย ผมถามเหตุผล เด็กบอกว่า ควรจะตกลงกันว่าสัก 50 คน เป็นที่รู้กันภายในแล้วให้เลือกนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ สัก 20 คน งดออกเสียงสัก 30 คน ที่เหลือเลือกนายกฯ คนเก่า ถึงอย่างไรก็ชนะอยู่ดี มันจะดูเนียนมากกว่านี้ การวิจารณ์จะลดน้อยลงไปด้วย ส่วนเรื่องพานไหว้ครูก็เหมือนกัน เด็กนักเรียนของผมบอกว่า “ถ้าผมทำอย่างนั้นมอบให้อาจารย์วันไหว้ครู มันอยู่ที่ว่าอาจารย์รับแล้วจะคิดอย่างไรมากกว่า คนอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องจะมายุ่งอะไร”
ครูเทคนิค
ตอบครูเทคนิค
วัดจากสิ่งที่คุณครูเทคนิคได้สัมผัส บ่งบอกว่าเด็กๆ รู้การเมืองและเข้าใจการเมืองได้ด้วยตัวเอง ไม่ต้องมีคนมาชี้นำอะไรทำนองนั้น และคงไม่มีใครมาล้างสมองเด็กแน่ๆ
ข้อมูลจากเกษตรกรสวนปาล์มใต้
เรียน บ.ก.ข่าวสด
ในฐานะเกษตรกรชาวสวนปาล์มภาคใต้ ผมอยากจะบอกว่า ที่ราคาปาล์มสูงสุดในรอบปีนี้มันมีสาเหตุมาจากผลผลิตมีน้อย ตามวงรอบของปาล์มน้ำมัน ดังนั้น ตามกลไกตลาด เมื่อผลผลิตมีน้อยโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มแต่ละโรงต่างแย่งกันซื้อผลผลิตปาล์มน้ำมัน ทำให้ราคาปรับสูงขึ้น แต่ไม่สอดคล้องกับราคารับซื้อผลปาล์มจากเกษตรกร เนื่องจากขณะนี้ราคาน้ำมันปาล์มดิบอยู่ที่กิโลกรัมละ 21 บาท ราคาผลปาล์มจะต้องอยู่ที่ไม่ต่ำกว่ากิโลกรัมละ 4 บาท แต่ขณะนี้เกษตรกรขายได้ไม่เกิน 3.50 บาทเท่านั้น
ที่ผ่านมาได้เรียกร้องให้ภาครัฐแก้ปัญหามาอย่างต่อเนื่องแต่ไม่เคยได้รับการช่วยเหลือ และที่ตลกร้ายไปกว่านั้นคือ ห้ามจำหน่ายน้ำมันปาล์มบรรจุขวดสำหรับบริโภคไม่ต่ำกว่าขวดละ 34 บาท โดยอ้างว่าเป็นการสะท้อนราคาปาล์มน้ำมันตามราคาจริงในปัจจุบัน ทั้งๆ ที่น้ำมันปาล์มที่นำมาจำหน่ายเป็นสต๊อกน้ำมันที่ซื้อไว้ในช่วงที่ราคาปาล์มน้ำมันตกต่ำ ราคาอยู่ที่ขวดละ 24-26 บาทเท่านั้น สรุปแล้วใครได้ผลประโยชน์มหาศาลจากการออกประกาศนี้ครับ
ปาล์มระทม
ตอบปาล์มระทม
ขอบคุณที่บอกเล่าข้อมูลมาให้ทราบกัน เป็นมุมจากเกษตรกรสวนปาล์มภาคใต้ ซึ่งเป็นตลกร้ายจริงๆ เกษตรกรยังขายได้ราคาต่ำ ส่วนประชาชนผู้บริโภคน้ำมันปาล์มบรรจุขวด ก็ไม่สามารถซื้อราคาถูกได้
เหตุร้ายที่เกิดซ้ำซาก
เรียน บ.ก.
กรณีเครนตกใส่โรงเรียนทำให้เด็กนักเรียนบาดเจ็บสาหัส ผู้ว่าฯ กทม.กร้าวตะปูดอกเดียวก็ห้ามตอก ในขณะที่เครนที่เหลืออยู่ก็มีสภาพไม่แตกต่างอะไรกับเครนที่ตก เหตุการณ์แบบนี้เกิดซ้ำซาก เพราะทุนนิยมเป็นใหญ่ วิศวกรที่เข้มงวดต่อวิชาชีพก็จะไม่มีใครจ้าง ถ้าเช่นนั้นก็จะต้องทราบดีว่าเครื่องมือมีสภาพพร้อมใช้งานหรือไม่ มีมาตรการควบคุมความปลอดภัยหรือไม่อย่างไร การควบคุมคุณภาพเมื่ออยู่ในระบบทุนนิยมก็เป็นเพียงกระดาษเปื้อนหมึกเท่านั้น ความผิดก็ต้องเริ่มจากผู้อนุญาตที่มิได้ตรวจสอบอุปกรณ์และแผนการป้องกันอุบัติเหตุอย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อเกิดอุบัติเหตุก็ทำขึงขังสร้างเกราะป้องกันตัวเองเท่านั้น
ด้วยเคารพ
ขาว
ตอบ คุณขาว
คงคาดหวังอะไรได้ยาก ในเรื่องมาตรฐานความปลอดภัย ดังที่คุณตั้งข้อสังเกตมานั่นแหละ
