ศึกไม่ไว้วางใจคงหนักกว่านี้/ทางแก้ปัญหาไฟไหม้ป่าพรุ
คอลัมน์ บ.ก.ตอบจดหมาย
ศึกไม่ไว้วางใจคงหนักกว่านี้
เรียน บ.ก.ข่าวสด
สรุปว่าเป็นการแถลงนโยบายรัฐบาล หรืออภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ดุเดือดพอหอมปากหอมคอ เป็นสัญญาณเตือนว่าถ้าอภิปรายไม่ไว้วางใจจริงๆ จะสนุกกว่านี้ อาจจะเป็นเพราะครั้งนี้มีส.ส.รุ่นใหม่มีโอกาสได้เข้าไปร่วมเวทีการเมืองมากขึ้น มีมุมมองความเห็นที่แตกต่างและหลากหลาย
แต่สิ่งที่ข้าพเจ้าไม่อยากเห็นคือวาทกรรมที่เสกสรรปั้นแต่งขึ้นมาไม่ว่าจะฝ่ายไหน เพราะตอนนี้ชาวบ้านจะอดตายกันอยู่แล้ว ทำนาหว่านกันหลายรอบพอขึ้นกล้ามาหน่อยก็แห้งตายลงทุนหมดกันเป็นแสน ถ้าขืนช้าอาจจะต้องนำเข้าข้าวสารจากประเทศเพื่อนบ้านมาบริโภค
ส่วนอีกเรื่องไม่น่าเชื่อว่าการเมืองจะทำให้ตัดพี่ตัดน้องกันได้ แต่ก็นั่นแหละ การเมืองไม่มีมิตรแท้และศัตรูที่ถาวร ข้าพเจ้าเชื่อว่าทุกคนมีอุดมการณ์ที่จะทำให้ชาติบ้านเมืองเดินก้าวไปข้างหน้าด้วยดี เพียงแต่ว่ายืนกันคนละฝ่ายเท่านั้นเอง
ด้วยความเคารพ
สิชล
ตอบ คุณสิชล
เห็นด้วยว่า บรรยากาศสภาในการแถลงนโยบายของรัฐบาลนั้น ถือว่าดุเดือดเอาการ ถ้าถึงวาระอภิปรายไม่ไว้วางใจคงจะยิ่งเดือดกว่านี้แน่ๆ ขณะเดียวกันเสร็จศึกสภาแล้ว รัฐบาลต้องรีบทำงานเพื่อแก้ปัญหาความ เดือดร้อนของชาวบ้าน แต่ต้องย้ำว่านั่นเป็นหน้าที่รัฐบาล ส่วนฝ่ายค้านมีหน้าที่ตรวจสอบ จะมาหาว่าฝ่ายค้านคอยเล่นการเมืองถ่วงการทำงานของรัฐบาลไม่ได้ นี่คือประชาธิปไตย ต้องมีระบบถ่วงดุล ไม่ใช่ระบบเผด็จการมีพรรคเดียวฝ่ายเดียวกุมอำนาจ
ทางแก้ปัญหาไฟไหม้ป่าพรุ
ถึง บ.ก.ข่าวสด
เมื่อไม่นานมานี้เกิดเหตุเพลิงไหม้ป่าพรุ ซึ่งเป็นป่าสงวนแห่งชาติหนองห้าง และป่าเกาะเรือโกลน หมู่ 7 บ้านเกาะเรือโกลน อ.สวี จ.ชุมพร ส่งผลให้เกิดควันไฟปกคลุมทั่วทั้งอำเภอเขตชุมชนเป็นวงกว้างชาวบ้านสำลักควัน ปวดแสบปวดร้อนและมีอาการระคายเคืองลูกตา หายใจไม่สะดวก
โดยเฉพาะเด็กเล็กและคนป่วย ผืนป่าพรุที่ถูกเพลิงไหม้นั้น บางส่วนเป็นพื้นที่ปลูกปาล์มน้ำมันที่เคยถูกนายทุนเข้ามาบุกรุกปลูกไว้ แต่ถูกเจ้าหน้าที่ยึดคืนมาได้ เหตุเพลิงไหม้ป่าพรุมักจะเกิดอยู่เป็นประจำ ส่วนหนึ่งก็เกิดจากป่าพรุที่นี่มีต้นเสม็ดอยู่มาก ยามแล้งจัดทำให้เกิดไฟไหม้ได้ง่าย และเชื่อว่าเกิดจากฝีมือมนุษย์จุดไฟล่าสัตว์ป่า
ส่วนอีกสาเหตุหนึ่งคือการที่ต้นปาล์มของนายทุนที่ลักลอบปลูกนั้นไม่ได้ถูกตัดโค่นทิ้ง ดังนั้นจึงอยากให้มีการอนุมัติใช้ มาตรา 25 พ.ร.บ.ป่าสงวน แห่งชาติ พ.ศ.2507 กับพื้นที่ที่ถูกบุกรุกเพื่อฟื้นฟูป่า เพื่อที่ให้เจ้าหน้าที่ป่าไม้เข้าไปโค่นล้มรื้อถอนต้นปาล์ม ที่นายทุนเข้าไปบุกรุกพื้นที่ป่าสงวน
หากไม่ทำเช่นนี้ นายทุนก็แอบเข้าเก็บผลผลิตผลปาล์มในพื้นที่ได้และการจุดไฟเผาเพื่อขยายพื้นที่ปลูกไปเรื่อยๆ ป่าสงวนแห่งนี้ ถูกบุกรุกอยู่เสมอมาจากอดีตพื้นที่ป่ามี 1,350 ไร่ ปัจจุบันนี้ เหลือเพียง 245 ไร่เท่านั้น
นับถือ
ศักดิ์
ตอบ คุณศักดิ์
เป็นข้อเสนอที่น่าสนใจ หน่วยงานที่รับผิดชอบน่าจะรับไปพิจารณา ที่สำคัญต้องเร่งหาทางรักษาพื้นที่ธรรมชาติเอาไว้ ก่อนจะไม่เหลืออะไรเลย
