เรื่องเศร้าลันลาเบล/ค้านกม.กองทุนกู้ยืม‘กยศ.’

คอลัมน์ บ.ก.ตอบจดหมาย

เรื่องเศร้าลันลาเบล

เรียน บ.ก.ข่าวสด

เหตุการณ์พริตตี้สาว “ลันลาเบล” เป็นเหยื่อถึงแก่ชีวิต เป็นเรื่องน่าเศร้าสลดมาก อย่ามองกันว่าเป็นอาชีพที่ต้อยต่ำแล้วจะเกิดอะไรก็ได้ เพราะไม่ว่าอย่างไร อาชีพพริตตี้ก็เป็นอาชีพที่ทำกันเป็นปกติ อาจจะเปลืองเนื้อเปลืองตัวบ้าง แต่ผู้หญิงเหล่านี้ก็มีศักดิ์ศรี มีความเป็นมนุษย์

คำถามที่น่าถามมากกว่าก็คือ ทำไมประเทศเรา ที่ประชาชนทุกคนต้องเสียภาษี แต่เหตุใดเราไม่สามารถทำให้ผู้หญิงจำนวนหนึ่ง มีอาชีพการงานที่มั่นคงและลดความสุ่มเสี่ยงน้อยกว่านี้

การที่เราต้องมีพริตตี้ ไปจนถึงสาวเอ็นเตอร์เทน ควรต้องถามว่ารัฐบาลทำอะไรอยู่ เหตุใดต้องมีสตรีในสังคมเราต้องไปประกอบอาชีพเช่นนี้

ดังนั้นคดีน้องลันลาเบล เป็นเครื่องประจานว่า การบริหารชาติบ้านเมืองของรัฐบาล ไม่สามารถดูแลประชาชนได้ดีพอ เฉพาะอย่างยิ่งน้องลันลาเบลนี้ อ่านจากข่าวก็เห็นได้ว่า เธอมุ่งมั่นทำงานเพื่อเก็บเงินส่งลูกตัวน้อยได้เรียนดีๆ เพื่อมีอนาคตที่ดีกว่าเธอแล้วผู้บริหารบ้านเมืองรู้สึกอะไรบ้างไหม รับผิดชอบอะไรบ้างไหม

หญิงสู้

ตอบ คุณหญิงสู้

ที่คุณนำเสนอมา ถูกต้องอย่างมาก ทำไมผู้หญิงในสังคมเราจึงต้องไปทำอาชีพที่ต้องสุ่มเสี่ยงกับมนุษย์กลุ่มหนึ่งที่เอารัดเอาเปรียบทางเพศ

และที่สำคัญเป็นปัญหาการบริหารบ้านเมือง สังคมเราเกิดความเหลื่อมล้ำหรือไม่ ประชาชนในสังคมต้องประกอบอาชีพที่ไม่มีหลักประกันในชีวิตหรือไม่ นี่คือปัญหาของการบริหารบ้านเมือง

ค้านกม.กองทุนกู้ยืม‘กยศ.’

เรียน บ.ก.ข่าวสด

เป็นคนหนึ่งที่ไม่เห็นด้วยกับนักการเมืองที่จะนำเสนอร่าง พ.ร.บ.กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) เข้าสู่สภาผู้แทนราษฎร โดยเฉพาะประเด็นให้ผู้กู้ยืมเงินภายหลังที่สำเร็จการศึกษา อาจเลือกทำงานให้รัฐแทนการชำระกู้ยืมเงิน ให้เงินกู้ยืมเพื่อการศึกษาเป็นเงินกู้ยืมปลอดดอกเบี้ยผู้กู้ยืมสำเร็จการศึกษาในระดับอุดมศึกษา

และได้รับผลการศึกษาในระดับเกียรตินิยมอันดับหนึ่ง สามารถแปลงหนี้เงินกู้เป็นทุนการศึกษาโดยไม่ต้องชำระเงินได้นั้น แบบนี้เรียกว่าหาเสียงเกินขอบเขตความเป็นจริงไปแล้ว แล้วอย่างนี้กยศ.จะมี เงินหมุนเวียนได้อย่างไร?

อย่างน้อยถ้าทุกคนที่กู้เงินไปเรียนและส่งคืนพร้อมดอกเบี้ย ก็จะทำให้กยศ.ยืนอยู่ได้ โดยไม่ต้องไปเอางบประมาณของรัฐ แต่ทุกวันนี้ไม่ใช่เตี้ยลงสาละวันลงไปเรื่อยๆ อีกอย่างตอนนี้ใครๆ ก็อยากทำงานรัฐกันทั้งนั้นมั่นคงกว่าภาคเอกชน ให้ภาครัฐจัดสอบแข่งขันเหมาะสมที่สุดแล้วอย่าไปวุ่นวาย

ส่วนเกียรตินิยมอันดับหนึ่งแปลงเป็นเงินกู้ เรียนดี เรียนเก่ง ไม่ได้หมายความว่าจะทำงานได้ดี อย่ายึดติดสิ่งเหล่านี้ปล่อยให้เป็นธรรมชาติและความสามารถของบุคคลดีกว่า และปล่อยให้กยศ.เขาทำงานตามกลไก ของสถาบันของเขาเองเป็นหนี้ต้องใช้ ยืมเรียนต้องมีดอกเบี้ย เบี้ยวหนี้ก็ต้องฟ้องร้อง คนมีการศึกษาใช่ว่าจะมีความรับผิดชอบและจิตสำนึกกันทุกคน

ด้วยความเคารพ

พังพวย

ตอบ คุณพังพวย

ขอบคุณที่แสดงความคิดเห็นดีๆ มา เพราะเป็นเรื่องใหญ่ต้องช่วยกันคิดช่วยกันแสดงความคิดเห็น เพื่อให้รอบคอบที่สุด

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน