กรมบัญชีกลางชี้แจงข้อร้องเรียน / อย่าบังคับไปทุกเรื่อง
คอลัมน์ บก.ตอบจดหมาย
กรมบัญชีกลางชี้แจงข้อร้องเรียน
เรื่อง ชี้แจงข่าวกรณีทุกข์ของทหารผ่านศึกสูงวัย
เรียน บรรณาธิการหนังสือพิมพ์ข่าวสด
อ้างถึง หนังสือพิมพ์ข่าวสด (คอลัมน์ บ.ก.ตอบจดหมาย) ฉบับวันที่ 4 ธันวาคม 2562
ตามที่หนังสือพิมพ์ข่าวสด (คอลัมน์ บ.ก.ตอบจดหมาย) ฉบับวันที่ 4 ธันวาคม 2562 ได้เผยแพร่ข่าวสาร กรณีผู้ใช้นามว่า “ผ่านศึกแก่ๆ” ได้ร้องเรียนกรณีที่เป็นผู้ถือบัตรผ่านศึกชั้นที่ 1 โดยบุตรเสียชีวิตในขณะรับราชการเป็นตำรวจตระเวนชายแดน
บิดาและมารดาจึงได้รับบำนาญพิเศษในฐานะทายาทและได้รับเงินช่วยเหลือค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ (ช.ค.บ.) ต่อมาเมื่อปีพ.ศ.2549 ถูกตัด ช.ค.บ. เพราะกฎหมาย ช.ค.บ. มาตรา 4 บิดาเป็นข้าราชการบำนาญครูจะรับเงิน ช.ค.บ. หลายสิทธิไม่ได้ จึงขอให้แก้ไขมาตรา 4 ปรับปรุงให้ผู้ถือบัตรชั้นที่ 1 ได้รับเงินเพิ่มอีก ความละเอียดแจ้งแล้ว นั้น
กรมบัญชีกลางพิจารณาแล้ว ขอเรียนว่า ช.ค.บ. เป็นเงินที่รัฐจ่ายให้แก่ผู้รับบำนาญเพื่อให้ความช่วยเหลือผู้รับบำนาญด้านการครองชีพตามภาวะเศรษฐกิจ ให้สามารถดำรงชีพอยู่ได้ในภาวะเศรษฐกิจที่มีค่าครองชีพสูงขึ้นในขณะนั้น โดยพระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญพ.ศ.2521 มาตรา 5 ได้บัญญัติห้ามมิให้ผู้รับหรือมีสิทธิ์ได้รับบำนาญ มีสิทธิ์ได้รับช.ค.บ.
ถ้าผู้นั้นได้เข้ารับราชการหรือกลับเข้ารับราชการหรือเข้าทำงานหรือกลับเข้าทำงานสังกัดราชการส่วนกลาง ราชการส่วนภูมิภาคหรือราชการส่วน ท้องถิ่น กรณีตามความในมาตรา 5 แห่งพระราชกฤษฎีกาดังกล่าว ผู้มีผู้สิทธิ์ได้รับบำนาญพิเศษเมื่อเข้ารับราชการก็จะได้รับเงินเดือนจากทางราชการ จึงไม่มีสิทธิ์ได้รับช.ค.บ.แต่ก็ยังมีสิทธิ์ได้บํานาญพิเศษต่อไปได้
อย่างไรก็ดี กรณีตามที่ได้เผยแพร่ข่าวสาร ข้อมูลของผู้ใช้นามว่า “ผ่านศึกแก่ๆ” ไม่ชัดเจนจึงไม่สามารถที่แจ้งข้อเท็จจริงข้างต้นได้ ดังนั้นหากผู้ร้องมีความประสงค์ที่จะหารือเกี่ยวกับสิทธิต่างๆ ตามกฎหมายซึ่งอยู่ในความดูแลของกรมบัญชีกลาง ก็ขอให้ผู้ร้องหารือไปยังกรมบัญชีกลางและผ่านทางโทรศัพท์ หมายเลข 0-2127-7000 หรือหารือโดยทำเป็นหนังสือพร้อมแจ้งรายละเอียดข้อมูลของผู้ร้องไปยังกรมบัญชีกลางได้โดยตรงต่อไป
จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณาให้ความอนุเคราะห์เผยแพร่ข้อมูลให้กับสาธารณชนทราบต่อไปด้วยจะขอบคุณยิ่ง
ขอแสดงความนับถือ
นางแก้วกาญจน์ วสุพรพงศ์
รองอธิบดี การปฏิบัติราชการแทน
อธิบดีกรมบัญชีกลาง
อย่าบังคับไปทุกเรื่อง
เรียน บ.ก.
การรณรงค์งดใช้ถุงพลาสติกผ่านสื่อโทรทัศน์ ด้วยการเบลอภาพพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้งทางโทรทัศน์ในรายการโทรทัศน์หรือละครนั้น อย่าทำเลย มองว่าไม่ได้ประโยชน์อะไร คือทุกคนก็รับรู้กันอยู่แล้วว่า ให้ลดละเลิกการใช้ถุงพลาสติก หลายๆ ฝ่ายก็เริ่มทำเพื่อสิ่งแวดล้อมของเรา ค่อยเป็นค่อยไปดีกว่า ถ้าเบลอภาพสยองเลือดไหลนองเต็มตัว หรือภาพอุบัติเหตุ หรือแม้แต่ภาพอนาจาร อย่างนี้น่าสนับสนุนมากกว่า ควรจะทำ เรื่องบางเรื่องก็ปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติจะดีกว่า ห้ามไปทุกเรื่อง มันจะไม่ได้ผล สักเรื่อง
นับถือ
ก๊อบแก๊บ
ตอบ คุณก๊อบแก๊บ
เป็นความคิดเห็นที่เข้าท่าดี กรณีรณรงค์เลิกใช้ถุงพลาสติกนั้น ปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติดีที่สุด อย่าใช้วิธีการห้ามไปเสียทุกเรื่อง เห็นด้วยว่า ประชาชนควรเรียนรู้และเข้าใจปัญหาพิษภัยพลาสติก แล้วเลิกด้วยจิตสำนึกจริงๆ จะได้ผลแท้จริง ที่ผ่านมาก็ถือว่าได้ผลมากพอสมควรอยู่แล้ว