คอลัมน์ บก.ตอบจดหมาย

ชี้แจงปัญหาที่ราชพัสดุเกาะสมุย

เรื่อง ชี้แจงข่าวหนังสือพิมพ์

เรียน บรรณาธิการหนังสือพิมพ์ข่าวสด

อ้างถึง หนังสือพิมพ์ข่าวสด ฉบับวันที่ 2 พฤษภาคม 2560

ตามที่หนังสือพิมพ์ข่าวสด ฉบับวันที่ 2 พฤษภาคม 2560 ได้เสนอข่าวการคัดค้านโครงการพัฒนาที่ราชพัสดุแปลงหมายเลขทะเบียนที่ สฎ.๙๙๘(บริเวณแหลมไม้แก่น) ตำบลบ่อผุด อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี นั้น

กรมธนารักษ์ขอขอบคุณที่ท่านได้ให้ความสนใจติดตามงานในหน้าที่ของกรมธนารักษ์ ทั้งนี้ กรมธนารักษ์ขอเรียนชี้แจงดังนี้

1.ในปี 2559 กรมธนารักษ์มีนโยบายให้นำที่ราชพัสดุบริเวณแหลมไม้แก่นมาพัฒนา ที่ราชพัสดุมิติเชิงท่องเที่ยว เนื้อที่ 38-3-61 ไร่ และจังหวัดสุราษฎร์ธานีได้จัดให้มีการประชุมเพื่อรับฟังความคิดเห็นในการดำเนินโครงการดังกล่าว จำนวน 2 ครั้ง

2.เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2559 รับฟังความคิดเห็นของส่วนราชการ (ครั้งที่ 1) โดยผลจากการรับฟังความคิดเห็นสรุปว่า กรมธนารักษ์ควรจะพัฒนาที่ราชพัสดุแปลงดังกล่าว โดยการเปิดประมูลให้เอกชนเสนอโครงการและผลประโยชน์ตอบแทน รูปแบบโครงการเป็นศูนย์ประชุมนานาชาติ สถานที่จัดกิจกรรมทางน้ำที่มีองค์ประกอบต่างๆ และท่าเรือท่องเที่ยว (Marina)

3.เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2559 รับฟังความคิดเห็นของประชาชนในพื้นที่อำเภอเกาะสมุย (ครั้งที่ 2) ผลการรับฟังความคิดเห็นสรุปว่า เห็นด้วยกับการพัฒนาที่ดินราชพัสดุแปลงดังกล่าว โดยการมีส่วนร่วมขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและประชาชนในพื้นที่ รูปแบบโครงการเป็น Underwater World ศูนย์รวมสภาท้องถิ่น หรือโครงการแหลมไม้แก่นคอมเพล็กซ์

4.กรมธนารักษ์ได้อนุมัติหลักการเปิดประมูลโครงการ โดยดำนินการตามพระราชบัญญัติการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ.2556 ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการคัดเลือกที่ปรึกษาเพื่อวิเคราะห์ศึกษาโครงการดังกล่าว

5.เนื่องจากการพัฒนาที่ราชพัสดุแปลงดังกล่าวมูลค่าของโครงการเกินกว่า 1,000 ล้านบาท หากจะดำเนินการโดยภาครัฐ รัฐจะต้องรับภาระค่าใช้จ่ายในการลงทุนพัฒนาโดยใช้เงินงบประมาณเป็นประจำนวนมาก กรมธนารักษ์จึงได้ดำเนินการตามพระราชบัญญัติการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ.2556 ซึ่งการดำเนินการขั้นตอนดังกล่าวอยู่ระหว่างคัดเลือกจัดจ้างที่ปรึกษาเพื่อวิเคราะห์ศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการ อย่างไรก็ดีเพื่อให้การดำเนินโครงการดังกล่าวสอดคล้องกับความต้องการขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ส่วนราชการและประชาชนในพื้นที่ อันจะเป็นการลดผลกระทบของการดำเนินโครงการ ดังนั้น ในการวิเคราะห์ศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการและการดำเนินโครงการพัฒนาที่ราชพัสดุแปลง ดังกล่าว กรมธนารักษ์จะนำรูปแบบโครงการที่ได้มีการรับฟังความคิดเห็นของภาครัฐ เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2559 และภาคประชาชน เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2559 มาประกอบการพิจารณา โดยให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการดำเนินโครงการพัฒนาที่ราชพัสดุแปลงดังกล่าว

จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ และขอได้ชี้แจงข้อเท็จจริงดังกล่าว ให้ประชาชนรับทราบด้วยจะขอบคุณยิ่ง

ขอแสดงความนับถือ

นางระเบียบ คุ้มอินทร์

เลขานุการกรม ปฏิบัติราชการแทน อธิบดีกรมธนารักษ์

ไม่เอาสื่อซ้ายหันขวาหัน

ถึง บ.ก.

ถ้าสื่อมวลชน วิทยุ โทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ และสิ่งพิมพ์อื่นๆ ไปในทางเดียวกันหมด ท่าจะแย่ ความคิดหลากหลายจะไม่มี อ่านฉบับไหนๆ ดูช่องไหนๆ ก็เหมือนกันหมด ข้อความเดียวกัน เนื้อเรื่องเดียวกันหมด สังคมควรจะมีความหลากหลาย มีมุมมองหลายมุม จะบังคับให้มองมุมเดียวไม่ได้ เราพ้นยุคซ้ายหันขวาหันมาแล้ว พ้นมาแล้วไม่ควรถอยหลังกลับ

นับถือ

ชบา

ตอบ คุณชบา

ที่คุณกล่าวมานั้น มีจริงที่จีน และเกาหลีเหนือ ซึ่งกลุ่มคนที่มีอำนาจและคิดล้าหลังในสังคมไทย กำลังต้องการอย่างนั้น แต่สื่อเองไม่ยินยอมจะสู้อย่างถึงที่สุด

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน