การเขียนและอ่านของเด็กไทย

คอลัมน์ บ.ก.ตอบจดหมาย

การเขียนและอ่านของเด็กไทย

เรียน บรรณาธิการข่าวสด

1.ข่าวการทดสอบการอ่านของเด็ก 187 ประเทศขององค์กรแห่งหนึ่ง แจ้งว่าเด็กไทยมาตรฐานการอ่านลดลงมากต้องแก้ไขโดยด่วน อันที่จริงเด็กไทยการอ่านอ่อนมากมานานหลายสิบปีแล้ว เมื่ออ่านไม่คล่องก็จะเรียนวิชาต่างๆ ไม่เข้าใจ สมัยที่การศึกษาภาคบังคับถึงแค่ชั้น ป.4 แต่เด็กอ่านคล่องกว่าจบ ป.6 สมัยนี้เสียอีก การที่เด็กสมัยก่อนอ่านคล่องได้จัดการเรียนการสอนดังนี้ อายุ 6-7 ปี ให้ฝึกอ่านฝึกเขียนอยู่ชั้น ป.1 เตรียมอ่อน ป.1 เตรียมแก่ 2 ปีก่อน

แต่ปัจจุบันให้เข้าเรียน ป.1 เลยพื้นฐานการอ่านจึงอ่านอ่อนกว่าเก่า เป็นปัญหาในการเรียนในชั้นต่อๆ ไป เมื่อสอบไม่ผ่านครูก็เขียนคะแนนเพิ่มใส่ให้ เรียกว่าคะแนนพัฒนาการด้านต่างๆ สำหรับการแก้ไขวิธีหนึ่งก็คือ เลิกวิธีให้เขียนมากกว่าอ่าน เปลี่ยนเป็นให้อ่านมากกว่าเขียน หรือให้แบ่งเวลาเท่ากัน เพราะเขียนมากก็ไม่มีประโยชน์ถ้าอ่านไม่ออก

2.การยุบโรงเรียนขนาดเล็ก แม้ครม.จะมีมติให้ยุบไปแล้ว แต่ความจริงเขามีรถรับส่ง หรือเวลาครูจะไปก็เอารถรับเด็กไปด้วย กลับก็เอารถมาส่งไม่ใช่ให้เด็กเดินไป เด็กเข้าไปเรียนในตัวเมืองไกลกว่านี้อีกหลายเท่า ทำไมพ่อแม่ผู้ปกครอง ส่งบุตรหลานเข้าไปเรียนในตัวเมือง

เพราะเขาไม่ศรัทธาการสอนครู เห็นว่าไม่ได้ผล ที่เหลืออยู่คือพ่อแม่ที่ฐานะขัดสน การศึกษาที่คนหาว่าไม่มีคุณภาพ จะไปโทษครูฝ่ายเดียวก็ไม่ถูก แต่เกิดจากพวกวางแผนเกี่ยวกับการศึกษา คือแต่ก่อนผู้บริหารโรงเรียนทำงานธุรการพิมพ์หนังสือเอง ครูมีหน้าที่สอนเพียงอย่างเดียว พวกวางแผนก็เปลี่ยนแปลงให้ผู้บริหารแบ่งงานไปให้ครูทำ ครูก็เลยไม่ค่อยมีเวลาสอน ผู้บริหารเงินเดือน 5-6 หมื่นบาทก็แทบจะไม่ได้ทำอะไร

การอ้างว่าผู้ปกครองไม่อยากให้ยุบโรงเรียน เป็นข้ออ้างของพวกที่กลัวว่าจะไม่ได้อยู่อย่างเหมือนเก่า กลัวว่าจะจับกลุ่มคุยกันเอางานส่วนตัวมาทำไม่ได้ ผู้บริหารก็กลัวว่าจะถูกยุบตำแหน่งผู้อำนวยการ กลัวว่าจะไปธุระส่วนตัวไม่ได้เหมือนเดิม การอ้างว่าผู้ปกครองไม่อยากให้ยุบโรงเรียน ความจริงพ่อแม่ผู้ปกครองไม่สนใจโรงเรียนในหมู่บ้านของตนเอง คิดแต่จะพาส่งบุตรหลานเข้าไปเรียนในตัวเมือง นักเรียนที่เหลืออยู่นอกจากฐานะขัดสนแล้ว ก็มีส่วนหนึ่งที่โรงเรียนในตัวเมืองเต็มแล้วรับเพิ่มอีกไม่ได้นั่นเอง

ขอแสดงความนับถือ

ครูกลุ่มหนึ่ง

ตอบ ครูกลุ่มหนึ่ง

อ่านแล้วได้ข้อมูลเกี่ยวกับระบบการเรียนการสอนที่น่าสนใจทีเดียว แต่กรณีการยุบโรงเรียนขนาดเล็กนั้น ที่คุณบอกเล่ามาก็คงเป็นความจริง แต่ก็ยังมีอีกหลายมุม เช่น ยุบแล้วมีผลกระทบต่อเด็กยากจนที่ต้องไปเรียนในโรงเรียนที่ไกลกว่าก็มีอยู่จริง ทำให้เลือกที่จะไม่ไปเรียน จนสูญเสียโอกาสและอนาคต

คำเตือนจากคนร่วมวิ่ง

เรียน บรรณาธิการ

ได้ไปร่วมกิจกรรมวิ่งไล่ลุงด้วย ได้บรรยากาศที่ดีมากๆ อันที่จริงก็เป็นคนสูงวัยแล้ว ไม่ใช่เด็กรุ่นใหม่ และที่สังเกตก็เห็นว่าคนมาร่วมมีเด็กรุ่นใหม่มาก แต่คนวัยกลางคนและสูงวัยหน่อยรุ่นเดียวกันก็มีมาก ทำให้นึกถึงบรรยากาศในอดีต สมัยที่ร่วมชุมนุมทางการเมือง ความจริงถ้าบ้านเราเป็นประชาธิปไตยเต็มเปี่ยม ระบบสภาแข็งแกร่ง บอกได้เลยว่าประชาชนไม่ต้องมาวิ่งไล่ ไม่ต้องมาลงถนนเลย ไปคิดทบทวนกันให้ดี อย่าเอารัดเอาเปรียบ ยึดกุมอำนาจอยู่แต่พวกเดียว

ลุงวิ่งไล่ลุง

ตอบ ลุงวิ่งไล่ลุง

เป็นคำเตือนสติผู้มีอำนาจที่ตรงจุดมากๆ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน