กฟน.ชี้แจงเอกสารไฟฟ้า
คอลัมน์ บ.ก.ตอบจดหมาย
กฟน.ชี้แจงเอกสารไฟฟ้า – เรื่อง ชี้แจงข้อเท็จจริง กรณีสับสนเอกสารไฟฟ้า
เรียน คอลัมน์ บ.ก.ตอบจดหมาย
อ้างถึง หนังสือพิมพ์ข่าวสด คอลัมน์ บ.ก.ตอบจดหมาย ฉบับประจำวันเสาร์ที่ 9 พฤษภาคม 2563
ตามที่หนังสือพิมพ์ข่าวสด ฉบับที่อ้างถึง ได้ลงข้อความกรณี การจัดส่งใบเสร็จรับเงิน/ใบกำกับภาษี ดอกผลเงินประกันฯ และหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย ทำให้ ผู้ใช้ไฟฟ้าบางส่วนเกิดความสับสนกับใบแจ้งค่าไฟฟ้านั้น การไฟฟ้านครหลวง หรือ MEA ขอเรียนว่าใบเสร็จรับเงิน/ใบกำกับภาษี ดังกล่าว คือหลักฐานการหักชำระค่าไฟฟ้าเดือน ก.พ.2563 บางส่วนด้วยดอกผลเงินประกันการใช้ไฟฟ้าของผู้ใช้ไฟฟ้าเอง โดยผู้ใช้ไฟฟ้าได้รับดอกผลนี้
ตามมติคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ที่กำหนดให้ MEA และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) คำนวณดอกผลสะสมจากเงินประกันการใช้ไฟฟ้า ตั้งแต่ปี 2558-2562 รวมจำนวน 5 ปี ในอัตราดอกเบี้ยออมทรัพย์ของธนาคารกรุงไทย เพื่อคืนให้กับผู้ใช้ไฟฟ้าประเภท 1 บ้านอยู่อาศัยและประเภท 2 กิจการขนาดเล็ก
จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ และกรุณาเผยแพร่แก่สาธารณชนต่อไป ทั้งนี้หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้รับความร่วมมือด้วยดีเช่นเคย และขอบคุณเป็นอย่างสูงมา ณ โอกาสนี้
ขอแสดงความนับถือ
นางสาวผาสุก สัมปุณณะโชติ
ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กร
*******
ตู้ปันสุข-ตู้เติมใจ
ถึง บ.ก.
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ ยอมรับเศรษฐกิจโลกทรุด ส่วนเศรษฐกิจไทยต้องอาศัยความร่วมมือทั้งจากคนรวยและคนจน เห็นด้วยกับการที่ต้อง ให้ความร่วมมือซึ่งกันและกัน ตัวอย่างที่เห็นตอนนี้ มีตั้งตู้ปันสุข ตู้เติมใจให้กัน ตู้กับข้าวเสบียงบุญ ฯลฯ
ที่เริ่มจะแพร่หลายในหลายพื้นที่ ผู้ที่ต้องการแบ่งปันให้เพื่อนๆ นำสิ่งของมาใส่ให้กับผู้ที่เดือดร้อน ทำให้เกิดการให้และการรับ หรือแม้แต่โรงทาน หรือโต๊ะบริจาคอาหารกล่อง ข้าวสารอาหารแห้ง สิ่งที่จำเป็นต่อชีวิตประจำวัน ในสหรัฐจะมีธนาคารอาหารในแต่ละรัฐจะมีการจัดการ แต่ของไทยเรามี ตู้ปันสุข ตู้เติมใจให้กัน โรงทาน ใครมีอะไรก็นำมาให้ มาร่วมบริจาคแล้วกระจายอาหารเหล่านี้ให้ผู้ด้อยโอกาส ในเมื่อเศรษฐกิจซึมลึกและยาวนาน คนว่างงานก็มหาศาล อย่างน้อยยังมีอาหารเพื่อประทังชีวิตต่อไปได้
ปัญหาสังคมจะผ่อนคลายลงได้บ้าง ดีกว่าทั้งหิวทั้งไม่มีงาน ความเครียดจะเกิดขึ้น ระดับชาวบ้านผนึกกำลังช่วยซึ่งกันและกัน ก็หวังว่าระดับผู้นำจะแก้ปัญหาให้ผ่านไปได้ด้วยดี แม้ว่าบางคนหยิบและฉวยเกินกว่าที่จะบริโภค แต่ต้องถือว่าเขาไม่ได้ขโมย
สิ่งของที่วางในตู้เป็นของแบ่งปันให้เพื่อนมนุษย์ด้วยกันที่เดือดร้อน ผู้ให้ก็อย่าไปถือสาเอาความ เพราะแต่ละคนมีพื้นฐานให้และการรับไม่เหมือนกัน แค่อยากจะขอร้องว่าถ้าจะหยิบฉวยแบบโกยใส่ถุง อย่านำเด็กหรือเยาวชนไปด้วย เดี๋ยวเด็กจะเข้าใจผิดคิดว่าสิ่งที่ผู้ปกครองกระทำเช่นนั้นถูกต้องแล้วในสังคม จนลืมคำว่าแบ่งปันให้ผู้เดือดร้อนคนอื่นบ้าง
ด้วยความเคารพ
โลกยังน่าอยู่
ตอบ โลกยังน่าอยู่
เห็นด้วยกับความเห็นของคุณที่ว่า ปัญหาอลหม่านที่ตู้ปันสุข มีคนกวาดข้าวของไปมากมาย ก็อย่าได้ถือสาเอาความ อย่าถือเป็นการขโมย เพราะความยากลำบากและวิถีชีวิตที่แตกต่าง บางคนทั้งชีวิตมีแต่การดิ้นรน ทั้งชีวิตไม่เคยพอกิน ก็ต้องมองอย่างเข้าใจกันด้วย