คอลัมน์ บ.ก.ตอบจดหมาย
สำนักงานประกันสังคมโปรดตอบ
เรียน บรรณาธิการหนังสือพิมพ์ข่าวสด
กรณีที่จะขยายรับเงินชราภาพลูกจ้างในระบบประกันสังคม จากอายุ 55 ปีเป็น 60 ปีนี้ ข้าพเจ้าในฐานะเป็นผู้ประกันตนจึงขอฝากเรียนถามไปยังสำนักงานประกันสังคมว่า ถ้าจะออกจากงานตอนอายุ 56 ปีข้าพเจ้ามีสิทธิจะได้รับเงินชราภาพหรือไม่ เพราะที่ผ่านมาลาออกเมื่ออายุ 55 ปี และส่งเงินครบตามกำหนดคือ 15 ปีก็รับเงินชราภาพได้แล้ว หรือว่าจะได้ก็ต่อเมื่อส่งประกันตนเองไปอีก 4 ปี บางตำแหน่งงานของสถานประกอบการเอกชน จะให้เกษียณเมื่ออายุ 55 ปี การแก้ไขกฎหมายออกมาในรูปแบบอย่างนี้ ไม่เป็นผลดีต่อลูกจ้างที่อยู่ในระบบประกันสังคมเลย แต่ถ้ายังคงยืนยันที่จะขยายรับเงินชราภาพลูกจ้างควรจะหาทางออกกับผู้ที่เกษียณเมื่ออายุ 55 ปีด้วย
ลูกจ้าง
ตอบ คุณลูกจ้าง
เชื่อว่าข้อสงสัยของคุณ คงจะได้รับคำตอบจากสำนักงานประกันสังคมในเร็ววันนี้อย่างแน่นอน
ปัญหาประมูลรถของกรมศุลกากร
เรียน บ.ก.ข่าวสด
เบรกประมูลรถกรมศุลกากร 315 คัน เพราะกรมการขนส่งทางบกแจ้งว่า รถยนต์ของกลางมีรถยนต์เพียง 4 คันเท่านั้น ที่สามารถจดทะเบียนได้ รวมไปถึงรถหรูๆ ด้วย จึงอยากถามว่าที่ผ่านมาประมูลทุกครั้ง ระหว่างกรมศุลกากรกับกรมการขนส่งทางบก ได้มีการตรวจสอบกันก่อนหรือไม่ กรณีอย่างนี้จะทำอย่างไรต่อไป จึงขอเสนอแนะว่าในเมื่อรถที่เหลือคือรถไม่ถูกต้อง ดังนั้นสมควรที่ต้องทำลายให้สิ้นซากไปเลย เก็บเอาไว้ก็เสียค่าดูแลรักษา และต้องทำต่อหน้าสื่อมวลชนและประชาชนทั่วไป เพื่อความโปร่งใส ก่อนทำลายนับจำนวนให้ครบ ถ้าไม่ทำลายเป็นซาก ระวังจะมีข้อครหา สุดท้ายนี้ภาษีรถยนต์นำเข้าอย่าตั้งกำแพงให้สูงเลย ให้ราคารถที่ซื้อจากต่างประเทศกับในประเทศราคาพอๆ กัน ปัญหาเรื่องการเลี่ยงภาษีคงลดน้อยลงหรือไม่มีและไม่ต้องมาเสียเวลาขายทอดตลาด ไม่ต้องมาจ่ายรางวัลนำจับ และไม่ต้องกลัวว่าท้องถนนเนืองแน่นไปด้วยรถ ทุกอย่างมีทางออก
วิภา
ตอบ คุณวิภา
ผู้บริหารกรมศุลกากรบอกว่า ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่กรมการขนส่งทางบกท้วงติงและแจ้งว่ารับจดทะเบียนได้เพียงไม่กี่คัน โดยกรมศุลกากรจะมีหนังสือสอบถามไปยังกรมการขนส่งทางบกทุกครั้งที่จะเปิดประมูล แสดงว่าเขาก็ประสานงานกันมาตลอด คราวนี้ที่เกิดปัญหา อยู่ระหว่างการพูดคุยของ 2 หน่วยงาน เพื่อหาทางออกให้ได้ ถึงอย่างไรกรมศุลกากรต้องการประมูลให้ได้ เพราะคือรายได้ที่จะนำเข้ารัฐ
เซลฟี่และโชว์ในสังคมออนไลน์
ถึงบ.ก.ข่าวสด
เดี๋ยวนี้ ใครไปไหนมาไหนก็ต้องเซลฟี่และโพสต์ออกสื่อออนไลน์ เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่าไร้สาระ แต่น่าจะมองอีกมุม กลับเห็นว่า การเซลฟี่เป็นการบอกเล่าตัวตนของคนคนนั้นได้เป็นอย่างดี เพราะทุกคนชอบอวด คิดว่าสถานที่ที่ตนเองไปนั้น หรือสิ่งที่ตนเองทำลงไปนั้น ดีเท่ต้องโชว์ ก็เลยต้องนำลงในเฟซบุ๊กหรือสื่ออื่นๆ ที่มีมากมาย ผลที่ตามมาก็คือ สังคมออนไลน์เองนั่นแหละ จะตัดสินอย่างรวดเร็วฉับไวและกระหึ่มไปทั่ว ว่าที่คุณทำไปนั้นดีหรือแย่ มีพฤติกรรมที่รุกรานสิ่งแวดล้อม ทำลายธรรมชาติหรือไม่ โดยที่คนคนนั้นไม่เคยเข้าใจ ไม่เคยลึกซึ้ง ก็จะได้รู้กันอย่างเปิดเผยกว้างขวางว่า ที่ไปนั้นดีหรือเลวเช่นไร จึงบอกว่ามีมุมที่ดีๆอยู่ คือจะได้รู้ตัวเอง
โลกกว้าง
ตอบ คุณโลกกว้าง
ขอบคุณที่เสนอความคิดเห็นดีๆ มา
