คอลัมน์ บก.ตอบจดหมาย

การพัฒนาท้องถิ่นชะงักหมด – เรียน บรรณาธิการหนังสือพิมพ์ข่าวสด

หลังจากที่ขยายกำหนดเวลาการชำระภาษีที่ดินและ สิ่งปลูกสร้าง ทำให้ผู้มีหน้าที่เสียภาษีชำระภาษี ตามแบบแจ้งการประเมินภาษี ภายในเดือนสิงหาคม 2563 และผ่อนชำระ 3 งวดได้ในเดือนสิงหาคม ถึงเดือนตุลาคม 2563 นั้น

ในฐานะที่เคยอยู่ท้องถิ่นมาก่อน มองว่าเห็นด้วยที่รัฐบาลประกาศผ่อนผันช่วยเหลือดูแลประชาชนทั่วไป แต่ผล กระทบที่กลับมาคือทางอปท.หรือทางเทศบาล ที่มีหน้าที่ ในการดูแลประชาชน เนื่องจากว่างบประมาณที่ได้รับจากรายได้ที่เก็บภาษี ที่ทางรัฐบาลให้เราจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างนั้นเพียง 10 เปอร์เซ็นต์ จากยอด 100 เปอร์เซ็นต์ เช่นตั้งเป้าจัดเก็บไว้ 90 ล้านบาท แต่เก็บได้เพียง 9 ล้านบาท

ปัจจุบันมีผู้มาเสียภาษีเพียง 7 ล้านกว่าบาท ส่วนต่างที่มีถึง 80 ล้านบาท เป็นผลกระทบโดยตรงที่ทางเทศบาลเองจะขาดรายได้จากส่วนนี้ไป เงินที่ขาดหายไปทำให้ทางเทศบาลต้องเข้าไปดูที่รายจ่ายประจำ และงบลงทุน เช่น โครงการต่างๆ ที่ตั้งเตรียมไว้ของปีงบประมาณนี้ ก็คงต้องหยุด ไม่สามารถเซ็นสัญญาได้ เนื่องจากไม่มีเงิน

ส่วนเรื่องที่ 2 คือรายจ่ายประจำ ที่ต้องมาดูในเรื่องของค่าน้ำมัน หรือค่าใช้จ่ายอื่น ที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนา ที่จะทำให้การพัฒนาหดหายไป รายได้ของทางเทศบาล ไม่ใช่เฉพาะที่รัฐให้จัดเก็บเพียง 10 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น แต่ผลกระทบต่างๆ ที่รัฐได้กำหนดไว้สำหรับการเยียวยาช่วงโควิด-19 ระบาด ก็มีผลกระทบด้วยเช่นกัน เช่น เรื่องภาษีมูลค่าเพิ่ม ที่ปกติแล้วจะเก็บไว้ในแต่ละปี เพื่อนำมาทำเป็นรายได้ ยังขาดหายไปกว่า 70 ล้านบาท นอกจากนี้เรื่องของเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ที่รัฐส่งให้มาไม่ครบ หากรัฐบอกว่า ให้นำเงินสะสมของทางเทศบาลนำไปจ่ายก่อน ก็เป็นการผลักภาระให้กับท้องถิ่น เนื่องจากว่ามาตรการแต่ละมาตรการนั้น เป็นเรื่องของรัฐบาลที่กำหนดไว้ทั้งสิ้น

อยากฝากบอกไว้ คือ รัฐบาลต้องหางบประมาณมาชดเชย ให้กับเทศบาลทุกๆ เทศบาล ไม่งั้นเทศบาลเจ๊งแน่

คนท้องถิ่น

ตอบ คนท้องถิ่น

ประชาชนตามท้องถิ่นต่างๆ คงต้องเตรียมรับผลกระทบ ด้านการพัฒนาในพื้นที่ คงจะต้องชะงักหรือชะลอกันไปถ้วนหน้า เนื่องจากองค์กรปกครองท้องถิ่นต่างๆ อยู่ในภาวะเงินงบประมาณหดหายไปอย่างมหาศาล ส่วนรัฐบาลจะสามารถช่วยเหลือได้อย่างไรหรือไม่ ก็น่าห่วงใยจริงๆ ขนาดรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ซึ่งจะต้องมารับบทหนักด้านดูแลเศรษฐกิจและงบประมาณต่างๆ เดี๋ยวก็ลาออก เดี๋ยวก็ลาออก วังเวงอย่างมากจริงๆ

 

ยุคสงครามการค้าไม่ใช่ทหาร – เรียน บ.ก.ข่าวสด

เวลานี้ที่มีนักเคลื่อนไหวที่เป็นผู้หญิง มีทั้งในกทม.และต่างจังหวัด เริ่มมีมากขึ้น ผมมองว่ามันเป็นนิมิตหมายที่ดี เป็นการตื่นตัวใหม่ ต้องบ่มเพาะนักเคลื่อนไหวทางสิทธิให้มีมากขึ้น ปัจจุบันทั่วโลกทำสงครามทางการค้ากันหมดแล้ว ไทยควรจะหยุดซื้ออาวุธสงครามได้แล้ว ลดกำลังทหารลง ควรเปลี่ยนนโยบายทางการทหารเสียใหม่ ประชาชนกำลังอดตาย คนว่างงานเต็มบ้านเต็มเมือง

นับถือ

ริมเมย

ตอบ ริมเมย

ที่คุณกล่าวมาว่าเป็นนิมิตหมายที่ดี กับการตื่นตัวของ ผู้หญิงและคนรุ่นใหม่ ต่อสู้เพื่อสิทธิเสรีภาพกันมากขึ้น เห็นด้วยอย่างยิ่ง รวมถึงประเด็นเราอยู่ในยุคสงครามการค้า ไม่ใช่สงครามทางทหารกันแล้ว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน