ยิ่งลักษณ์หนีก็ไม่มีปรองดอง
เรียน บ.ก.ข่าวสด ที่เคารพ
ข่าวคราว น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางหลบหนีออกนอกประเทศ ฟังเสียงวิเคราะห์วิจารณ์ในหมู่ชาวบ้านทั่วไปแล้ว ส่วนใหญ่เห็นกันว่า สิ่งที่เกิดขึ้นสะท้อนให้เห็นว่าประเทศชาติของเรายังอยู่ในปัญหาความขัดแย้ง แบบเดิมนั่นแหละ เพราะตัวพี่ชายของนายทักษิณ หนีไปก่อนแล้ว แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรเขาได้ ป้วนเปี้ยนไปมาอยู่รอบๆ ประเทศเรา แล้วก็ยังส่งผลอิทธิพลต่างๆ ต่อสถานการณ์การเมืองเหมือนเดิม มาคราวนี้มีอดีตนายกฯ ผู้หญิงที่มีแฟนคลับเยอะแยะ ต้องประสบชะตากรรมแบบพี่ชาย ต้องหนีออกนอกประเทศไปอีก เลยจะกลายเป็นสองแรงแข็งขัน การแสดงอิทธิพลจากภายนอกประเทศอาจจะยิ่งมีพลังมากขึ้น ก็เลยเห็นว่าสถานการณ์บ้านเมืองของเราก็ยังคงอยู่ในท่ามกลางความขัดแย้งเช่นเดิม ไม่ได้พัฒนาเปลี่ยนแปลงไปไหน
ปัญหาที่ว่า ทำไมเขาต้องหนีไป พวกที่เชียร์รัฐบาลปฏิวัติก็บอกว่าเพราะเป็นคนไม่เคารพกระบวนการยุติธรรม แต่อีกพวกก็บอกว่าเพราะปัญหากระบวนการยุติธรรม 2 มาตรฐานไง ทำให้เขาอยู่ต่อไปไม่ได้ การจัดม็อบนกหวีดมาล้มรัฐบาลในปี 2557 โดยลงเอยให้ทหารออกมายึดอำนาจ ก็เป็นวงจรเดียวกันกับเมื่อปี 2549 ที่ปฏิวัติเพื่อล้มทักษิณ แล้วกวาดล้างทักษิณแบบจะเอาให้หมดสิ้นอำนาจและเงินทอง มาหนหลังปฏิวัติ 2557 ก็ลงเอยแบบเดิมๆ คือ เน้นกวาดล้างยิ่งลักษณ์
ถ้าพูดแบบคนกลางๆ ไม่เข้าข้างฝ่ายไหน คิดเอาเองว่าภาพที่ดีที่สุดสำหรับการเมืองไทยในสายตาคนทั่วโลก ก็ต้องเป็นภาพที่น.ส.ยิ่งลักษณ์สามารถอยู่ในประเทศไทยได้ต่อไป ไม่ต้องหลบหนี แล้วถ้าจะให้ดีกว่านั้นต้องพูดคุยให้ทักษิณ พี่ชายยอมกลับมาเข้ากระบวนการดำเนินคดีในประเทศไทย ไม่ต้องหลบหนีอย่างทุกวันนี้ ถ้าทำได้อย่างนี้จะเป็นภาพที่สดสวย ทำให้รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้คะแนนเสียงไปทั่วโลก และภารกิจสร้างความปรองดองของการเข้ามา ยึดอำนาจจะประสบความสำเร็จได้อย่างแท้จริง แต่นี่กลับตรงกันข้าม ที่หนีไปก็ไม่มีทีท่าจะกลับมาเข้ากระบวนการยุติธรรม แล้วยังจะต้องหนีเพิ่มไปอีกคน โดยสรุปแล้วในสายตาคน ทั่วโลกมีผลเสียหายมากกว่าผลดี และภารกิจปรองดองก็คงไม่บรรลุเป้าหมาย มุมมองอย่างนี้ถูกต้องหรือไม่
ขอขอบคุณ
คนดูขอบเวที
ตอบ คนดูขอบเวที
มุมมองของคุณน่าสนใจมาก มีเหตุผล มีคำอธิบายที่มา ที่ไป น่ารับฟัง รวมทั้งเห็นด้วยอย่างมาก
เสียดายรถไฟความเร็วสูง
สวัสดีบ.ก.ข่าวสด
ต้องเดินทางไปทำธุระที่เชียงใหม่บ่อยๆ ในช่วงปีสองปีหลังนี้ เห็นได้ชัดเจนว่าสนามบินเชียงใหม่แออัดมาก เที่ยวบินของสายการบินต่างๆ ขึ้นลงกันถี่ยิบ คนที่ขับรถมารับมาส่ง ผู้โดยสารขึ้นเครื่องบินบ่นไปตามๆ กันว่าช่วงหลังไม่มีที่จะให้จอดรถได้เลย จึงได้แค่ขับมาส่ง ไม่สามารถเดินเข้าไปส่งถึงภายในอาคารผู้โดยสารได้ เลยมักได้ยินคนพูดกันด้วยน้ำเสียงเสียดายว่า ถ้ารถไฟความเร็วสูงเกิดตั้งแต่ในยุครัฐบาลก่อนนั้น ประชาชนก็คงมีทางเลือกในการเดินทางที่สะดวกรวดเร็วมากขึ้น ไม่ต้องมาประดังกันอยู่ที่สนามบินเพราะไม่มีทางเลือกเช่นนี้ ตอนนี้มาเริ่มสร้างก็ถือว่าช้าไปหลายปีทีเดียว
คนเดินทาง
ตอบ คนเดินทาง
อย่างนี้ก็คงจะเรียกเร็วสูงไม่ได้แล้ว แค่จะเริ่มก็ช้าแล้ว
