คอลัมน์ บ.ก.ตอบจดหมาย
หนุนค่าแท็กซี่คนละครึ่ง – เรียน บ.ก.
กรณีสมาคมการค้าเครือข่ายแท็กซี่ไทย ยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี ผ่านศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ทำเนียบรัฐบาล เพื่อขอให้รัฐบาลพิจารณาอนุมัติให้เครือข่ายแท็กซี่ไทย เข้าร่วมในโครงการคนละครึ่งนั้น ในฐานะเป็น ผู้โดยสารขาประจำเห็นด้วยอย่างมากถ้าให้แท็กซี่เข้าร่วมโครงการ สะดวกทั้งสองฝ่าย อย่างน้อยผู้โดยสารได้ชำระค่าโดยสารราคาที่ถูกลง บางครั้งก็มีความจำเป็นต้องใช้บริการรถแท็กซี่ ผ่อนภาระค่าเดินทางไปได้บ้าง ถ้าแท็กซี่มีโครงการนี้โอกาสที่ผู้โดยสารจะตัดสินใจนั่งรถแท็กซี่ก็มีมากขึ้น ส่วนผู้ขับแท็กซี่ก็จะมีรายได้เพิ่มขึ้นเหมือนกับร้านค้าทั่วไปที่เข้าโครงการคนละครึ่ง ส่วนผลพลอยได้อีกอย่างผู้โดยสารไม่ต้องกังวลเรื่องค่าโดยสารในยามที่ไม่มีแบงก์ย่อย สแกนหน้าจอโทรศัพท์กันได้ เรื่องเงินทอนยังคงเป็นปัญหาของการนั่งรถแท็กซี่ หลายครั้งที่ผู้โดยสารเสียรู้คนขับยื่นธนบัตรหนึ่งพันไปหรือห้าร้อยให้ ปรากฏว่าคนขับหยิบแล้วขับรถหนีไป ผู้สูงวัยและเป็นสตรีมักจะเจอเหตุการณ์เช่นนี้
อรุณี
ตอบอรุณี
เรื่องนี้สะท้อนว่า ทุกโครงการของรัฐบาล คิดมาแบบเฉพาะหน้า ไม่มองให้ทั่วถึง ไม่มองเป็นระบบ เพื่อครอบคลุมช่วยเหลือคนถ้วนหน้าทุกวงการ ต้องให้วงการแท็กซี่เขาคิดกันเองและนำเสนอให้รัฐบาลไปคิดต่อ
ข้อเสนอแนะชุดไปรเวตน.ร. – เรียน บ.ก.ข่าวสด
ดิฉันขอเสนอแนะความต้องการของนักเรียน ที่ต้องการแต่งตัวไปรเวตไปโรงเรียนดังนี้ ว่าเราควรจะพบกันครึ่งทาง ของเก่าก็ไม่ทิ้ง เรายังได้ของใหม่เพิ่มเติมเข้ามาตามความต้องการของนักเรียน
1. นักเรียนชาย ม.ต้น มีชุดพลศึกษา ชุดลูกเสือ ชุดนักเรียน อย่างละ 1 ชุด ใส่ 1 วัน และชุดไปรเวต 2 วัน
2. นักเรียนหญิง ม.ต้น มีชุดเนตรนารี-ยุวกาชาด แต่งวันเดียวกันได้ เพราะเรียนแยกกันอยู่แล้ว ชุดพลศึกษา ชุดนักเรียน อย่างละ 1 ชุด ใส่ 1 วัน และชุดไปรเวต 2 วัน
3. นักเรียนชาย ม.ปลาย มีชุดพลศึกษา ชุดนักเรียน อย่างละ 1 ชุด ใส่ 1 วัน ชุดไปรเวต 3 วัน
4. นักเรียนหญิงม.ปลาย มีชุดพลศึกษา ชุดนักเรียน อย่างละ 1 ชุด ใส่ 1 วัน ชุดไปรเวต 3 วัน
ถ้าแต่งได้ตามที่แนะนำมาผู้ปกครองก็จะได้ประหยัดโดยไม่ต้องซื้อของใหม่เลย เพราะของเก่ามีอยู่แล้ว นอกจากชุดนักเรียน ม.3 ขึ้นม.4 ชุดนักเรียนต้องเปลี่ยนใหม่เท่านั้น ถ้ามีการเรียน ร.ด.นักเรียนชาย ม.ปลาย ก็แต่งชุดร.ด.วันแต่งไปรเวตก็ได้ ส่วนรองเท้าห้ามสวมรองเท้าแตะโดยเด็ดขาด ไม่ว่าจะสวมชุดไปรเวตก็ตาม เพราะไม่สุภาพ ควรสวมรองเท้าหุ้มส้น สวมชุดต่างๆ ที่ใช้อยู่เดิมก็สวมให้ถูกต้องกับที่เราสวม
สุดท้ายนี้ควรจะประชุมถามนักเรียนก่อนว่าจะทำหรือไม่ ทั้งหมดนี้เป็นแค่การเสนอแนะเท่านั้น ไม่สนใจก็ไม่เป็นไรแต่อย่าด่ากัน
ครูเก่าและแก่
ตอบครูเก่าและแก่
ขอบคุณที่มีความคิดเสนอแนะน่าสนใจ พบกันครึ่งทาง คือไม่ปฏิเสธข้อเรียกร้องของเด็ก พร้อมกับนำเสนอของเก่ามาผสมผสานกัน ต่อข้อเรียกร้องทุกเรื่องหากเปิดวงพูดคุยกัน ก็จะได้ทางออกที่เหมาะสม สำหรับประเด็นชุดไปรเวตของเด็กนั้น คงเพราะเห็นว่าเครื่องแบบกฎเกณฑ์ทรงผม คือหลักคิดอำนาจนิยม ทำให้การเรียนการสอนเราไม่สร้างสรรค์ เป็นเหตุให้เด็กลุกขึ้นมาเรียกร้องเปลี่ยนแปลง
