คอลัมน์ บ.ก.ตอบจดหมาย
ทางแก้ปัญหาเบี้ยคนชรา – เรียน บ.ก.ข่าวสด
เริ่มออกมาเรื่อยๆ กรณีผู้ชรารับเบี้ยผู้สูงอายุ และเงินบำนาญพิเศษ บางรายถึงกับต้องฟ้องร้องขึ้นศาลเรียกเงินคืน โดยเฉพาะการรับเงินซ้ำซ้อนระหว่างเบี้ยบำนาญพิเศษ กับเบี้ยผู้สูงอายุ ในเรื่องของกฎหมายก็เป็นเรื่องที่ผิด แต่บางท่านและส่วนใหญ่ก็จะไม่รู้เกี่ยวกับข้อกฎหมายนี้ เห็นว่าได้เงินก็รับทั้งนั้น
ในอนาคตคงจะไม่เกิดเรื่องอย่างนี้ขึ้น ถ้าเป็นการเอาใจใส่ในแต่ละขั้นตอน เริ่มจากในกรณีบิดา-มารดา ท่านใดที่จะได้รับเงินบำนาญพิเศษ หน่วยงานต้นสังกัดฝ่ายสวัสดิการจะต้องชี้แจงกับผู้ที่จะได้รับสิทธิ์ว่า เมื่อได้รับสิทธิ์นี้จะต้องเสียสิทธิ์เบี้ยผู้สูงอายุทันที คือต้องอธิบายทำความเข้าใจตั้งแต่แรก และเช่นเดียวกันหน่วยงานท้องถิ่น ถ้าเป็นกทม.หรือพัทยา ความคุ้นเคยระหว่างเจ้าหน้าที่กับชาวบ้านแทบจะไม่รู้จักกัน เนื่องจากเป็นสังคมเมือง
แต่ในกรณีของ อบต., เทศบาล เจ้าหน้าที่ที่ทำงานในอบต, เทศบาลก็ล้วนแต่ลูกหลานคนในพื้นที่ ควรจะเอาใจใส่และสังเกต กรณีง่ายๆ คือการได้เงินบำนาญพิเศษ ส่วนมากจะเป็นข้าราชการที่สังกัดกลาโหม ดังนั้นเมื่อมีเหตุให้เสียชีวิตก็จะเป็นข่าวคนในพื้นที่จะรู้กันทันที ลูกบ้านนี้เสียชีวิตเพราะปฏิบัติหน้าที่เสี่ยงภัย หน่วยงานต้นสังกัดจะจัดงานให้อย่างสมเกียรติแทบทุกนาย
ดังนั้นเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นก็ต้องดูรายละเอียดว่าลูกบ้านนี้ บิดา-มารดามีสิทธิ์ใดบ้าง ถ้าเป็นข้าราชการก็ไม่มีปัญหา แต่ถ้าบิดาหรือมารดาเป็นพลเรือนมีสิทธิ์รับเบี้ยผู้สูงวัยก็ต้องเข้าไปชี้แจงให้ทราบ สอดส่องดูแลอย่างนี้ ดีกว่าจะต้องไปเรียกเงินคืนภายหลัง เพราะผู้ที่ถูกเรียกเงินคืนที่เป็นข่าวล้วนแต่วัยชราภาพทั้งนั้น ไม่มีเรี่ยวแรงจะหาเงินคืนให้ได้ กลายเป็นว่าเจ้าหน้าที่รังแกผู้สูงวัย
ดังนั้น ทั้งเจ้าหน้าที่ต้นสังกัด เจ้าหน้าที่ของท้องถิ่น ควรชี้แจงในสิทธิ์ และทายาทที่มีสิทธิ์รับเงินบำนาญพิเศษ ต้องพึงเรียนรู้สิทธิ์ที่ควรได้หรือไม่ได้ บางรายโชคดีมีผู้ใจดียื่นมือเข้ามาช่วยชำระให้หมด แต่อย่าลืมว่ากรณีอย่างนี้ยังมีอีกเป็นหมื่นๆ รายทั้งที่เป็นข่าวและไม่เป็นข่าว ทางที่ดีรัฐเองต้องหาทางแก้ไขให้กระทบต่อผู้ถูกเรียกเงินคืนให้น้อยที่สุด และที่สำคัญคือระบบฐานข้อมูลในภาครัฐต้องเชื่อมกันได้
เยาว์วัย
ตอบ เยาว์วัย
ข้อเสนอแนะของคุณต่อกรณีปัญหาเบี้ยคนชราซ้ำซ้อน เป็นข้อคิดที่ควรรับฟังกัน เจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรเอาใจใส่ให้ข้อมูลข้อแนะนำที่ถูกต้อง เป็นการป้องกันไม่ให้เกิดปัญหา ดีกว่าเอากฎหมายแบบตายตัวมาดำเนินการ มายึดเงินคืนมาเอาผิดกัน
การเผาศพผู้ตายด้วยโควิด – เรียน บ.ก.ข่าวสด
กรณีวัดปฏิเสธไม่ยอมเผาศพผู้เสียชีวิตที่ติดเชื้อโควิด 19 ขออธิบายว่า เชื้อไวรัสจะถูกทำลายที่อุณหภูมิ 100 องศาเซลเซียส ดังนั้นควันที่เกิดจากเผาศพก็ไม่มีเชื้อโควิด-19 แน่นอน นอกจากนั้นควันก็ระเหยไปไกลกว่าบริเวณวัดมาก อยากให้ทางวัดและชุมชนมีเหตุผล เพราะวัดสมควรจะต้องมีเมตตา วัดคือสัปปายะสถาน
มนุษย์โสสิ
ตอบ-มนุษย์โสสิ
ถูกต้องแล้วที่ว่า วัดควรต้องมีเมตตา อีกทั้งที่คุณอธิบายมานั้นเป็นหลักวิทยาศาสตร์ที่ชัดเจน ไม่ควรกลัวปัญหาศพผู้เสียชีวิตด้วยโควิดในทางที่ผิดๆ
