งบซื้อวัคซีน

คอลัมน์บ.ก.ตอบจดหมาย

งบซื้อวัคซีน

เรียน บ.ก.

วันนี้สัญญาซื้อวัคซีนกลายเป็น “ทาบู” ต้องห้าม เปิดเผย เรื่องนี้บ่งบอกว่าบริษัทผู้ผลิตวัคซีนนั้นไม่ใช่นักบุญ เพราะตั้งข้อบังคับมากมายสำหรับผู้ซื้อ เพราะวัคซีนเป็นที่ปรารถนาสูงสุด บริษัทผู้ผลิตจึงเรียกร้องสารพัด เพราะใครๆ ก็รักชีวิต รัฐบาลไหนก็ต้องการวัคซีนเพื่อรักษาชีวิตประชาชน ดังนั้นจึงเข้าทางปืนของผู้ผลิต เปรียบเทียบได้กับ “สัญญาขายวิญญาณให้ซาตาน” ดังนั้นขออย่าให้คนไทยหลงลมเด็ดขาด ที่บริจาควัคซีนไม่กี่โดส แต่ขายราคาแพงมหาศาลแล้วไม่ยอมรับความเสียหายใดๆ ที่จะเกิดขึ้น เพราะผู้ซื้อมีความจำเป็นที่จะต้องซื้อ รัฐบาลต้องกู้เงินมาซื้อวัคซีนกว่า 6,000 ล้านบาทแล้ว แล้วไหนจะประชุมเยียวยาพิษโควิดซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะต้องใช้เงินอีกเท่าใด ดังนั้นจึงขอเตือนว่า “อย่าเยียวยาจนไม่มีเงินซื้อยานะจ๊ะ” 7 ปีไม่ทราบว่าใช้เงินเกินบัญชีไปเท่าใด เป็นการสร้างภาระหนี้สินให้ประชาชนต้องรับผิดชอบ เงินกู้เงินงบประมาณไม่ใช่เงินของรัฐบาลแต่เป็นหนี้สินของประชาชน เรื่องนี้ต้องขอให้พี่น้องเพื่อนร่วมชาติตระหนักไว้ให้ได้ มิใช่ว่าอะไรๆ ก็จะเรียกร้องเอากับรัฐบาล จนรัฐบาลต้องเอาประเทศไทยไปค้ำประกันเงินกู้ อย่างที่รัฐบาลหลายรัฐบาลกระทำมาแล้ว เงื่อนไขข้อบังคับที่รัฐบาลทำไว้กับเจ้าหนี้นั้นเป็นเงื่อนผูกคอประชาชนทั้งประเทศ

โกโรโกโส

ตอบ โกโรโกโส

ปัญหาวัคซีนโควิดสำหรับบ้านเรานั้น จุดเริ่มต้นคือการจัดหาที่บกพร่อง ไม่เร่งระดมสั่งซื้อมาตั้งแต่แรก ทั้งที่มียี่ห้อคุณภาพผลิตออกมาหลายราย มีผู้ตั้งข้อสังเกตว่า เพราะรัฐบาลมุ่งจะใช้แอสตร้าเซนเนก้าที่ร่วมมือกับบริษัทสยามไบโอไซเอนซ์ เป็นวัคซีนหลัก จึงไม่สนใจติดต่อรายอื่น ทั้งที่ขั้นตอนการผลิตของแอสตร้าเซนเนก้าในไทยนั้น กว่าจะได้เริ่มใช้คือมิถุนายน จนต่อมาเกิดการระบาดหนักก่อนจะถึงมิถุนายน คราวนี้สถานการณ์วัคซีนในไทยจึงอลหม่าน ทั้งที่ถ้าทุ่มงบประมาณไปหาวัคซีนมาฉีดได้เร็ว ก็จะช่วยให้ทุกอย่างฟื้นเร็ว ไม่ต้องจ่ายเยียวยาจนไม่มีเงินซื้อยาดังที่คุณตั้งข้อสังเกตนั่นแหล

ข้อหาครอบจักรวาล

เรียน บ.ก.

ตั้งใจว่าจะเขียนเรื่องวัคซีน แต่เมื่อนึกถึง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ที่ห้ามโพสต์เรื่องจริงที่สร้างความหวาดกลัว ดังนั้นจึงต้องเริ่มที่นิยามของความหวาดกลัว “ความหวาดกลัว” เป็นคำคุณศัพท์ที่ไม่สามารถนับวัดได้ แตกต่างกับคำคุณศัพท์ที่สามารถนับวัดได้ เช่นความเร็ว นับวัดเป็นกิโลเมตรต่อชั่วโมง ความดังวัดเป็นเดซิเบล ความหวาน (บริกซ์) ความเค็ม (พีพีที ส่วนในพัน) ความเผ็ด (สโกวิลล์) ฯลฯ ก็สามารถนับวัดได้ สำหรับความหวาดกลัวนั้นไม่มีหน่วยนับวัด ต้องใช้ความเห็นมนุษยที่เป็นกรรมการตัดสิน ดังนั้นทำอย่างไรจึงจะตัดสินว่า “โพสต์ใด” สร้างความหวาดกลัว ก็คงต้องใช้องค์กรหรือหน่วยใดหน่วยงานหนึ่ง เป็นผู้ตัดสินว่า โพสต์ใด ทำให้เกิดความหวาดกลัว แนะนำว่าคงต้องคัดเลือกบุคลากรหลายฝ่ายทั้งภาคเอกชนและภาครัฐเข้าร่วมในการตัดสิน เพื่อให้ได้ความเห็น หลากหลาย ก่อนที่จะตัดสินโพสต์ไหนสร้างความหวาดกลัวแล้วเอาผิด ตอนนี้เฟกนิวส์ก็มากมาย จึงขอฝากภาครัฐช่วยกำจัดข่าวเฟกนิวส์ให้หมดไปก่อนจะได้ไหม

ด้วยความเคารพ

กิมฮวย

ตอบ คุณกิมฮวย

คำว่าสร้างความหวาดกลัว ก็คือข้อหาแบบเหวี่ยงแหดีๆ นี่เอง จะเรียกว่าข้อหาครอบจักรวาลก็ได้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน