คอลัมน์ บ.ก.ตอบจดหมาย

แอบเอาเศษกระจก 3 ตันมาทิ้ง / ต้นทุน‘ลิซ่า-อันเดรอา’มาไทย

ต้นทุน‘ลิซ่า-อันเดรอา’มาไทย

เรียน บ.ก.

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยเตรียมดึง “ลิซ่า แบล็กพิงก์” ศิลปินเค-พ็อพชาวไทยแต่สังกัดค่ายเพลงของเกาหลีใต้ และ “อันเดรอา โบเชลลี่” นักร้องโอเปร่าชื่อดังของโลกชาวอิตาลี มาร่วมกิจกรรมเคานต์ดาวน์ ในเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ใช้งบประมาณราว 200 ล้านบาท ถ้าในภาวะเหตุการณ์บ้านเมืองปกติสุข คนทำมาหากินคล่องตัวก็น่าจะส่งเสริมและเห็นดีด้วย

แต่ในภาวะสภาพเศรษฐกิจอย่างนี้ก็ต้องคิดกันอย่างรอบคอบ การลงทุนคือความเสี่ยง (ถ้าเป็นเงินของตนเอง ไม่ใช่เงินของประเทศ ได้เอง-เจ็บเอง ก็น่าทำ) ทำไปแล้วนักท่องเที่ยวยังไม่มาเพราะไม่แน่ใจก็อาจจะเกิดขึ้นได้ แต่ตรงข้ามทำแล้วนักท่องเที่ยวแห่ตีตั๋วเครื่องบินมาเที่ยวเมืองไทยก็อาจจะเกิดขึ้นได้เช่นกัน

ประเทศไทยส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวจากจีนเข้ามาเที่ยว อยู่ที่ว่าประเทศจีนปล่อยให้ประชาชนบ้านเขาออกนอกประเทศแล้วหรือยัง ในความเห็นส่วนตัวแล้ว ไทยเรามีจุดเด่นเรื่องการท่องเที่ยวอยู่แล้ว สถานที่ท่องเที่ยวทุกแห่งเป็นจุดดึงดูดที่น่าสนใจ ณ เวลานี้และสภาพอย่างนี้ไม่ต้องพึ่งคนเด่นคนดังเลย ขอเพียงเรื่องความปลอดภัยทุกอย่างเท่านั้นก็พอ เราอยู่ได้สบาย

รวมไปถึงเปิดโอกาสให้กองถ่ายหนังต่างประเทศเข้ามาถ่ายทำในไทย ถือเป็นรายได้ที่งดงามทีเดียว บางโอกาสก็เกิดการจ้างงานในพื้นที่อีกด้วย อย่างล่าสุด รัสเซล โครว์ ดาราฮอลลีวู้ด โพสต์ภาพรัวๆ พร้อมอธิบายการมาถ่ายทำภาพยนตร์ทั้ง จ.ภูเก็ตและกทม. นี่คือผลพลอยได้ไม่ต้องเสียค่าโฆษณาเลย หรือถ้าอยากโปรโมตกันจริงๆ นักร้อง นักดนตรีไทย ฝีมือดีๆ มากมาย ตอนนี้ตกงานกันมาเกือบ 2 ปี เชิญมาร่วมงานสร้างสีสัน กระจายรายได้คนไทยด้วยกันเอง

สุดท้ายนี้ส่งเสริมให้ชาวบ้านรู้จักบัญชีครัวเรือน แต่การบริหารระดับมหภาคมองข้ามเรื่องบัญชีครัวเรือนซะงั้น

ไทรย้อย

ตอบ ไทรย้อย

วิพากษ์วิจารณ์กันอื้ออึงจริงๆ สำหรับแนวคิดดึงศิลปินดัง 2 รายนี้ มาช่วยโปรโมตเปิดประเทศและเคานต์ดาวน์ของบ้านเราดังที่คุณตั้งข้อสังเกตมา คือเป็นการใช้เงินงบประมาณที่สูงมาก จึงน่าห่วงในภาวะที่ประเทศไทยต้องใช้งบประมาณเพื่อแก้ปัญหาโควิดและดูแลชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนที่กำลังยากลำบากหนัก แต่ก็มีมุมมองเสนอทางออก ควรดึงเอกชนให้มารับผิดชอบค่าใช้จ่ายในโปรเจ็กต์นี้เป็นหลักเพื่อให้โครงการเดินหน้า โดยไม่ต้องใช้งบฯ รัฐบาลให้ถูก จับจ้อง

 

แอบเอาเศษกระจก 3 ตันมาทิ้ง

เรียน บ.ก.ข่าวสด

จากกรณีชาวนา ต.สะเดา อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ เดือดร้อนเนื่องจากมีคนแอบเอาเศษกระจกกว่า 3 ตัน มาทิ้งปากทางเข้านา เขตหมู่บ้านโกรกหญ้าคา หมู่ 2 และหมู่ 7 ต.สะเดา มีความหนา 3-6 มิลลิเมตร น่าจะเป็นของผู้รับเหมาติดตั้งกระจก ช่วงนี้น้ำท่วมสร้างความลำบากให้กับชาวนา เพราะเป็นเศษวัสดุอันตราย

เป็นไปได้หรือไม่ว่าในแต่ละจังหวัดควรกำหนดให้มีศูนย์ขยะหรือโรงงานรีไซเคิลขยะจากการก่อสร้างและรื้อถอนสิ่งก่อสร้าง จะเป็นของหน่วยงานรัฐหรือเอกชนก็ได้เพื่อป้องกันการนำมาขยะประเภทนี้มาทิ้งในที่สาธารณะ ส่วนผู้รับเหมาเองต้องมีจิตสำนึกให้มาก เพราะคนในพื้นที่ต้องมารับกรรมเพราะความมักง่าย

เป็นตาหน่าย

ตอบ เป็นตาหน่าย

เหตุการณ์ที่นางรอง บุรีรัมย์ เป็นเรื่องน่าตกใจอย่างมาก ควรจะตามจับกุมมาให้ได้ แนวคิดของคุณก็น่าสนใจ ควรกำหนดศูนย์สำหรับขยะที่เป็นวัสดุอันตรายโดยเฉพาะ ไม่ควรมาแอบทิ้งเช่นนี้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน