ผ่าคดีฆ่าเปลือยน้องเปิ้ล หมกศพสยองอืดคาห้อง
หนุ่มใหญ่ซดพิษหนีผิด : คอลัมน์ สดจากสนามข่าว
ผ่าคดีฆ่าเปลือยน้องเปิ้ลหมกศพสยองอืดคาห้องหนุ่มใหญ่ซดพิษหนีผิด : กลิ่นเหม็นที่โชยออกมาจากห้องชั้น 8 ของแมนชั่นแห่งหนึ่งย่านสะพานแดง คลองหนึ่ง ซอยรังสิต–นครนายก 20 ตำบลประชาธิปัตย์ อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี ทำให้ชาวหอแห่งนั้นรับรู้ได้ทันทีว่าน่าจะเกิดคดีสยองขวัญขึ้นแล้ว
ย้อนไปเมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 5 ก.ย. พ.ต.อ.ปัณณพัฒน์ เดชโชติพิสิฐ ผกก.สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ ได้รับแจ้งเหตุ มีผู้เสียชีวิตภายในห้องพักชั้น 8 ของแมนชั่นแห่งหนึ่งย่านสะพานแดงคลองหนึ่ง ซอยรังสิต–นครนายก 20 ตำบลประชาธิปัตย์ อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี
จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วย พล.ต.ท.อําพล บัวรับพร ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธํารงค์ รอง ผบช. พล.ต.ต.สุภธีร์ บุญครอง ผบก.สส.ภ.1 , พล.ต.ต.สุรพงษ์ ถนอมจิตร ผบก.ภ.จว.ปทุมฯ พ.ต.ท.ภัทรพล วัจนสุนทร รอง ผกก.(สส.) ชุดสืบสวนเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานและมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง
น.ส.เพ็ญพิมล บุญช่วยเหลือ
หรือ เปิ้ล ผู้ตาย
ในห้องที่เกิดเหตุพบผู้เสียชีวิต 1 ราย ทราบชื่อคือ น.ส.เพ็ญพิมล บุญช่วยเหลือ หรือ เปิ้ล อายุ 37 ปี ชาวตำบลเพ อำเภอเมือง จังหวัดระยอง สภาพศพเปลือย ถูกมัดมือมัดเท้าด้วยสายไฟนอนอยู่ที่พื้นห้อง ในสภาพเสียชีวิตมาแล้ว 2 วัน จนศพขึ้นอืดส่งกลิ่นเหม็นคลุ้งไปทั่วทั้งชั้น ภายในห้องมีข้าวของกระจัดกระจาย จึงได้บันทึกภาพวัตถุพยานแวดล้อมต่างๆ ไว้เป็นหลักฐาน
ในเบื้องต้นทราบว่าสาวผู้ตายพักอยู่ คนเดียว โดยแม่บ้านของหอพักให้การว่า เพื่อนของผู้เสียชีวิตโทร.มาหาเสมียนของหอพักว่า ติดต่อผู้ตายไม่ได้ ให้ช่วยขึ้นไปดูให้หน่อย เสมียนจึงได้บอกให้แม่บ้านขึ้นไปเรียก โดยเคาะประตูแต่ไม่มีเสียงตอบรับ และได้กลิ่นเหม็นออกมาจากในห้อง เปิดห้องเข้าไปก็พบว่ามีผู้เสียชีวิต จึงได้รีบโทร.แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ขณะที่พยานระบุช่วงกลางดึกมี ผู้ได้ยินเสียงหญิงสาวกรีดร้องดังลั่น และเสียงทุบฝาผนังห้อง แต่เข้าใจว่าเป็นเหตุผัวเมียตีกันจึงไม่มีใครยุ่งเกี่ยวด้วย
วงจรปิดมัด
เมื่อไปตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดก็พบภาพชายสวมเสื้อสีแดง เข้ามาหาผู้ตายตอนเที่ยงคืนกว่า โดยบอกกับแม่บ้านว่าจะขึ้นไปหาเพื่อนที่ห้องพัก จึงเปิดให้ โดยหลังจากขึ้นไปแล้วได้เดินเข้าไปที่ห้องดังกล่าว ก่อนกลับลงมาเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ตํารวจไล่สืบจากข้อมูลการติดต่อในมือถือของผู้ตาย พบว่าชายที่มาหา ผู้ตายคือ นายเถลิงศักดิ์ สุขวารี หรือ อาร์ต อายุ 43 ปี จึงรวบรวมพยานหลักฐานขอศาลอนุมัติออกหมายจับในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา
ผ่านมาหลายวันในที่สุด นายเถลิงศักดิ์ก็จนมุม โดยในวันที่ 13 ก.ย. เจ้าหน้าที่ ได้เบาะแสจากชาวบ้านเห็นรถเก๋งโตโยต้าสีดำ ณจ 8632 กทม. มาจอดบริเวณหลังห้องน้ำสนามกีฬาหมู่บ้านดอน หมู่4 ต.ตะเคียน อ.ด่านขุนทด จ.นคร ราชสีมา สงสัยอาจเป็นแก๊งค้ายาเสพติด จึงอยากให้เจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ
ตำรวจ สภ.ด่านขุนทด โดย พ.ต.อ. ต่อศักดิ์ จันทรกานตานนท์ ผกก.สภ.ด่านขุนทด พร้อมพ.ต.ท.สรัล สุรเดชานนท์ รอง ผกก.ป.ฯ พ.ต.ท.อิษฎ์ บุญญะฤทธิ์ รอง ผกก.สส.ฯ พ.ต.ท.สัญชัย คีรีรัตน์ สว.สส.สภ.ด่านขุนทด, พ.ต.ต.สามารถ วงศ์ประทุมมาลย์ สว.กก.สส.ฯ รรท.สวป.สภ.ด่านขุนทด ร.ต.ท.บุญญฤทธิ์ โกร่ง กระโทก รอง สวป.ฯ ด.ต.ยศฐวัฒน์ ถ่ายสูงเนิน จึงเข้าตรวจสอบ
นายเถลิงศักดิ์ สุขวารี หรืออาร์ต ถูกนำส่ง ร.พ.
พบนายเถลิงศักดิ์นั่งอยู่ในรถ จึงพยายามเกลี้ยกล่อมอยู่ครึ่งชั่วโมง ก่อนนายเถลิงศักดิ์จะลดกระจกลงมาแล้วรับสารภาพว่าหนีคดีฆ่าสาวเปลือยที่ จ.ปทุมธานี มา โดยก่อนหน้านี้พยายามกินยาฆ่าหญ้า แต่ไม่ตาย รู้สึกทรมานมาก และอยากให้ตำรวจช่วยโทรศัพท์หาภรรยา เพื่อพูดคุยเป็นครั้งสุดท้าย
เจ้าหน้าที่จึงประสานภรรยาให้ช่วยพูดเกลี้ยกล่อม ก่อนนายเถลิงศักดิ์สารภาพ ว่า เป็นคนสุดท้ายที่อยู่กับผู้ตายและ ได้ลงมือฆ่าจริง จากนั้นนายเถลิงศักดิ์ ยอมเปิดประตูและเจ้าหน้าที่พาไปส่งรักษาตัวที่โรงพยาบาลโดยมีเจ้าหน้าที่ คอยดูแลความปลอดภัย
พ.ต.อ.ต่อศักดิ์เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีพบเห็นรถเก๋งต้องสงสัยมาจอด และเข้าออกบริเวณดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง 3 วัน เกรงอาจเป็นคนร้ายตระเวนลักทรัพย์ เจ้าหน้าที่จึงตรวจสอบพบรถเก๋งดับเครื่องยนต์จอดอยู่ เมื่อเข้าไปดูผ่านกระจกรถพบนายเถลิงศักดิ์ปรับเบาะที่นั่งคนขับเอนลงนอน
เจ้าหน้าที่จึงเคาะกระจกรถ เมื่อเห็น เจ้าหน้าที่มานายเถลิงศักดิ์ได้ลุกขึ้นมาพร้อมลดกระจกลงประมาณ 1 นิ้ว และพูดว่า “ผมยอมแล้วครับ ผมผิดเต็มๆ ไม่มีใครช่วยผมได้พาผู้หญิงไปเที่ยว ผมเกี่ยวข้องคนสุดท้าย กล้องวงจรปิดเห็นผมเต็มๆ ในอพาร์ตเมนต์ส่วนตัวของผู้หญิง”
ตร.แถลงปิดคดี
ในระหว่างที่นายเถลิงศักดิ์พูดคุยกับ เจ้าหน้าที่ ได้ดื่มเครื่องดื่มบรรจุขวดสีน้ำตาลตลอดเวลา เจ้าหน้าที่จึงยึดขวดจากนายเถลิงศักดิ์ไว้ก่อน พร้อมพยายามพูดเกลี้ยกล่อมให้เปิดประตูรถออกมา แต่นายเถลิงศักดิ์ไม่ยอมเปิดและได้ขอยืมโทรศัพท์มือถือของเจ้าหน้าที่ เพื่อโทร.ติดต่อหาภรรยา โดยได้เปิดลำโพงโทรศัพท์ จากการฟังบทสนทนาระหว่างนายเถลิงศักดิ์บอกกล่าวกับภรรยาว่า “เห็นหรือยังรูปที่ส่งไปให้และตอนนี้อยู่กับตำรวจ เจ้าหน้าที่จะมาจับกุม”
เจ้าหน้าที่ตรวจสอบภายในขวดพบว่าเป็นยาฆ่าหญ้า โดยนายเถลิงศักดิ์มีพฤติกรรมพยายามกินยาพิษ เพื่อฆ่าตัวตายหนีความผิด เจ้าหน้าที่จึงรีบนำตัวนายเถลิงศักดิ์ส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลด่านขุนทด นครราชสีมา ขณะนี้อาการ พ้นขีดอันตรายแล้ว
ขณะที่จากการสอบสวนถึงสาเหตุที่ฆ่า นายเถลิงศักดิ์ให้การว่าโมโหที่ถูกสาวผู้ตายพูดดูถูกเรื่องที่ตนเคยติดคุกและต้องการทรัพย์สิน จึงลงมือก่อเหตุสยองดังกล่าว
เพราะคำว่าเรื่องผัว–เมีย ทำให้เกิดเรื่องสยองมานักต่อนักแล้ว
นพรัตน์ คุ้มศรี
พิชัย ศรีรุ่งเรือง
วสันต์ ทิพย์ประโภชน์
เรื่อง/ภาพ
