อริยะโลกที่6 : หลวงพ่อละมุด คุณธัมโม อดีตเจ้าอาวาสวัดระโสม
หลวงพ่อละมุด คุณธัมโม – “พระครูสุทธิธรรมคุณ” หรือ “หลวงพ่อละมุด คุณธัมโม” อดีตเจ้าคณะตำบล ระโสม และอดีตเจ้าอาวาสวัดระโสม อ.ภาชี จ.พระนคร ศรีอยุธยา พระปฏิบัติ พระนักพัฒนาที่มีผลงานเป็นที่ประจักษ์
เห็นได้ชัดจากการพัฒนาวัดระโสมจนเจริญรุ่งเรือง เพียบพร้อมไปด้วยเสนาสนะและสิ่งก่อสร้างที่อำนวยประโยชน์แก่พุทธศาสนิกชน และสร้างพระภิกษุสามเณรที่มีคุณภาพ ในการสืบทอดพระพุทธศาสนา
เป็นชาวเมืองกรุงเก่าโดยกำเนิด เกิดในสกุล พูลพละ เมื่อปี พ.ศ.2479 ครอบครัวประกอบอาชีพทำนา
ในวัยเด็กเมื่อเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ช่วยครอบครัวทำนา ขณะนั้นไม่ซุกซนเหมือนเด็กวัยเดียวกัน ตรงกันข้ามกลับเป็นเด็กที่มีความรับผิดชอบในสิ่งที่ได้รับมอบหมาย ชอบเข้าวัดทำบุญและช่วยเหลือปรนนิบัติพระ ชอบเล่นดนตรีไทยโดยเฉพาะซออู้ ซอด้วง
เริ่มอุปสมบทเมื่ออายุครบบวชที่อุโบสถวัดระโสม โดยมีพระครูชื้น วัดภาชี เจ้าคณะอำเภอภาชี เป็นพระอุปัชฌาย์, หลวงพ่อหล่ำ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และหลวงพ่อเชย เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายา “คุณธัมโม”
สนใจเล่าเรียนศึกษาทางด้านพระปริยัติธรรม สามารถสอบได้นักธรรมชั้นตรี โท เอก หลังจากนั้นอุทิศตนและเสียสละด้วยการเป็นครูสอนพระปริยัติธรรมจนครบ 7 พรรษา ปี พ.ศ.2506 ก็ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาส
เริ่มพัฒนาวัดด้วยการสร้างโบสถ์หลังแรก ด้วยงบประมาณไม่มากนัก
จากนั้นได้ก่อสร้างเสนาสนะอีกหลายสิ่งหลายอย่าง สภาพสิ่งก่อสร้างภายในวัดที่เห็นส่วนใหญ่เดิมเป็นไม้ ย่อมชำรุดทรุดโทรมลงไปตามกาลเวลา ก็ได้รับการบูรณะมาโดยตลอด ความเจริญที่เกิดขึ้นในวัดระโสมชาวบ้านยอมรับว่าเกิดจากการเสียสละทั้งแรงกายและ แรงใจของเจ้าอาวาสรูปนี้
เมื่อวันที่ 5 ธ.ค.2514 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรที่ พระครูสุทธิธรรมคุณ พ.ศ..2515 ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะตำบลระโสม พ.ศ.2516 เป็นพระอุปัชฌาย์ ในปีเดียวกัน และวันที่ 5 ธ.ค. ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรเจ้าคณะตำบลชั้นโท ในราชทินนามเดิม
สิ่งที่ท่านยึดถืออยู่เสมอ คือ การปฏิบัติชอบ ปฏิบัติดี ปฏิบัติตรง ที่สำคัญท่านมีความสามารถในด้านการก่อสร้าง สิ่งอะไรท่านจะทำเป็นตัวอย่างให้ญาติโยมเห็นก่อน เป็นคนที่ทำจริง ได้ปัจจัยมาเท่าไรท่านก็ใช้ในการทำนุบำรุงวัดหมด ท่านเป็นคนที่ชอบต้นไม้มาก จะหามาและให้ลูกวัดช่วยกันปลูก ให้พระคอยดูแลเก็บกวาดใบไม้ที่ร่วงหล่น รดน้ำพรวนดิน ท่านจะเน้นปลูกไม้ป่ายืนต้นประเภทให้ความร่มรื่นได้
หลายปีที่ผ่านมา ท่านเป็นโรคร้ายซึ่งคุกคามมานานคือโรคมะเร็งลำคอ แต่ท่านกลับมีกำลังใจที่เข้มแข็ง ต่อสู้กับโรคร้ายจนถึงวินาทีสุดท้าย หลังจากฉายแสงน้ำหนักลดลงตลอด กินอาหารไม่ได้ แต่ท่านก็ไม่กังวลใจแต่ประการใด ยังตั้งใจหาทุนมาก่อสร้างมณฑปเพื่อประดิษฐานพระพุทธบาทจำลองอายุเกือบ 100 ปี แต่ยังไม่ทันจะเห็นผลงาน
เมื่อวันที่ 7 พ.ย.2546 เวลาประมาณ 20.28 น. ท่านละสังขารด้วยอาการสงบภายในกุฏิ สิริอายุ 67 ปี พรรษา 46