บทบรรณาธิการ : นักการเมืองเต็มตัว
บทบรรณาธิการ : นักการเมืองเต็มตัว – ช่วงเวลานี้บุคคลในคณะรัฐบาลที่ล้วนมาจากการแต่งตั้งภายในวงล้อมของตนเองเข้าสู่ช่วงของการขยับปรับบทบาทกันมากมายหลายคน
โดยเฉพาะผู้ที่จะก้าวข้ามจากการได้รับโอกาสแต่งตั้งไปสู่ผู้ลงสมัครเพื่อให้ประชาชนมาเลือกตั้ง จากนักการทหาร นักธุรกิจ อดีตข้าราชการ นักวิชาการ ไปสู่นักการเมือง
คำว่านักการเมือง มักเป็นคำที่ก่อให้เกิดปฏิกิริยาที่หลากหลาย แต่ก็เป็นคำที่ผู้คนทั่วไปมักแสดงความคิดเห็นได้อย่างปลอดโปร่งสบายใจ
เพราะส่วนใหญ่นักการเมืองต้องใกล้ชิดประชาชน พร้อมเสมอที่จะถูกวิพากษ์วิจารณ์ ถูกตรวจสอบ ถูกซักถามประเด็นปัญหาต่างๆ
โดยเฉพาะในช่วงเวลาของการหาเสียงเลือกตั้ง
ขณะเดียวกัน นักการเมืองเป็นอาชีพที่มักถูกโจมตีทางลบ และถูกเหมารวมว่าเป็นผู้ที่จ้องมองแต่ผลประโยชน์ หลอกใช้ประชาชน และนิยมโกงกินคอร์รัปชั่น
โดยเฉพาะในช่วงเวลาเกิดความขัดแย้งทางการเมือง หรือมีเหตุการณ์รัฐประหาร นักการเมืองจะถูกลดความน่าเชื่อถือให้ดูด้อยค่าลงไปอีก เพื่อเปิดทางให้คณะบุคคลที่มาจากการแต่งตั้งดูมีคุณค่ามากกว่า
แต่จากบทเรียนในเหตุการณ์ทางการเมืองหลายครั้ง ตอกย้ำว่านักการเมืองที่มาจากการเลือกตั้งเป็นฝ่ายที่หาทางออกอย่างสันติและยั่งยืนได้มากกว่า เพราะเป็นตัวแทนของการต่อรองระหว่างกลุ่มประชาชน
กรณีการผลักดันร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมแบบสุดซอย เมื่อปี 2556 คือตัวอย่างที่ชัดเจน ว่านักการเมืองต้องยอมถอยไปอยู่สุดซอย เมื่อประชาชนจำนวนมากไม่เห็นด้วย
อย่างไรก็ตาม กรณีดังกล่าว นักการเมืองกลับตกเป็นจำเลย ว่าเป็นต้นตอของการยึดอำนาจ ทั้งที่ข้อเท็จจริงคือการยึดอำนาจไม่ควรเกิดขึ้น เพราะทำลายสิทธิของประชาชนที่จะตัดสินลงโทษนักการเมืองได้เอง
ณ เวลานี้เมื่อการหาเสียงเลือกตั้งเริ่มต้น พร้อมกับการปลดล็อกทางการเมือง มีสมาชิกในฝ่ายถือครองอำนาจประกาศตัวเป็นนักการเมืองหน้าใหม่ หรือนักการเมืองเต็มตัว พร้อมจะรับใช้ประชาชนตามระบอบประชาธิปไตย
หากเป็นเช่นนั้นก็ควรพร้อมที่จะรับฟังทุกเสียง อดทน และเคารพประชาชน
