ระดมทุนหาเสียง : บทบรรณาธิการ
พรรคพลังประชารัฐและพรรครวมพลังประชาชาติไทย เพิ่งเสร็จสิ้นการจัดงานเลี้ยงเพื่อระดมทุนสำหรับการหาเสียงในการ เลือกตั้งทั่วไปที่จะมีขึ้นในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2562
ซึ่งสามารถระดมเงินได้ถึงพรรคละประมาณ 650 และ 240 ล้านบาทตามลำดับ
โดยระเบียบของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) รายชื่อและจำนวนเงินของผู้บริจาคจะต้องเปิดเผยต่อสาธารณะภายในระยะเวลาไม่เกิน 1 เดือน
จึงเป็นโอกาสดีที่สังคมจะได้ติดตาม ตรวจสอบ ว่าใครหรือกลุ่มก้อนองค์กรไหน ให้การสนับสนุน พรรคการเมืองใด
อันเป็นข้อมูลสำคัญอย่างยิ่งสำหรับการวิเคราะห์การเมืองในอนาคต
เพราะหากพรรคที่ได้รับการสนับสนุนเหล่านี้ มีโอกาสเข้าไปมีส่วนจัดตั้งรัฐบาล ข้อมูลที่เปิดเผยว่ากลุ่มก้อนหรือองค์กรใดบ้างที่ให้การสนับสนุนพรรคการเมืองเหล่านี้
ก็จะถูกตรวจสอบจับตาไปด้วย ว่าจะได้รับประโยชน์โภชน์ผลใดเป็นการตอบแทนหรือไม่
หากการบริจาคทำไปโดยเปิดเผย โปร่งใส ตรงไปตรงมา ย่อมเป็นนิมิตหมายอันดีสำหรับการเมืองไทย ย่อมแสดงถึงการมีส่วนร่วมของประชาชนในการเข้ามาพัฒนาการเมือง
แต่หากเป็นไปในทางตรงข้าม อาทิ การบริจาคแบบลับๆ ล่อๆ โดยใช้ชื่อผู้อื่นก็ดี หรือมีการตอบสนอง “ผู้มีอุปการคุณ” ด้วยอำนาจรัฐหรืออื่นๆ ก็ดี
ก็จะยิ่งทำให้สังคมสามารถประเมิน แยกแยะความเกี่ยวเนื่องระหว่างการเมืองกับกลุ่มผลประโยชน์ได้
อย่างไรก็ดี นอกจากการเปิดโอกาสให้ระดมทุนเพื่อการทำงานด้วยความโปร่งใสแล้ว สิ่งที่กกต.ควรดำเนินการด้วยก็คือการเปิดกว้างให้พรรคการเมืองอื่นๆ ซึ่งมีวิธีระดมทุนในทางอื่น ได้ดำเนินการได้เช่นกันด้วย
สิ่งที่ควรจะควบคุม มิใช่การห้ามหรือกำหนดให้ทำอะไร แต่จะต้องให้กระบวนการในการดำเนินการนั้นเปิดเผย โปร่งใส และสังคม-สาธารณะ รวมไปถึงพรรคคู่แข่งสามารถเข้ามาตรวจสอบได้
ยิ่งมีช่องทางหลากหลายในการทำกิจกรรม การระดมทุน ก็ยิ่งเป็นการเปิดช่องให้ประชาชนทั่วไปเข้ามามีส่วนในการพัฒนาการเมือง ไม่ถูกผูกขาดโดยอำนาจทุนไม่กี่กลุ่ม-ตระกูล
บทบาทของกกต.ควรอยู่ ณ จุดนี้