ชกไม่มีมุม

วงค์ ตาวัน

 

แล้วที่เราเรียกร้องรณรงค์กันมาตลอดว่า อย่าได้ดูหมิ่นอาชีพสุจริตว่าต้อยต่ำไร้ค่า ชีวิตของคนหาเช้ากินค่ำแม้ยากลำบากรายได้น้อยนิด แต่ก็ยังดีกว่าเป็นโจรไปปล้นเขากิน หรือดีกว่าเป็นคนรวยที่เสวยสุขอยู่ท่ามกลางการเอารัดเอาเปรียบโกงกินคนอื่นนั้น

แล้วเหตุใดที่ประชุมของกระทรวงวัฒนธรรม จึงมีมติว่า การให้ทศกัณฐ์ ซึ่งเป็นราชาของยักษ์มีศักดิ์ศรี

ไปปรากฏภาพหยอดขนมครกนั้น เป็นภาพไม่เหมาะสม ต้องตัดออกไปจากมิวสิควิดีโอรณรงค์การท่องเที่ยว

บอกด้วยว่าเป็นภาพที่ขัดกับความเป็นศิลปะชั้นสูงของโขน

ตีความอย่างนี้ย่อมส่อแสดงว่า การหยอดขนมครก คือเรื่องชั้นต่ำหรือ

ระวังจะเข้าข่ายหมิ่นอาชีพแม่ค้าขายขนมครก ที่มีอยู่ทั่วทุกถิ่นที่ในประเทศไทย

เดี๋ยวเกิดคนขายขนมครกลุกฮือขึ้นมาบ้าง จะยุ่งกันใหญ่!

ที่สำคัญขนมครก ก็เป็นขนมของคนไทยที่มีมาแต่โบราณ เห็นกันมาตั้งแต่ยุคกรุงศรีอยุธยา

อย่างนี้กระทรวงวัฒนธรรม ไม่ถือว่าเป็นมรดกตกทอดกันมาที่ควรรักษาเชิดชูกันเอาไว้หรืออย่างไร

ทั้งยังเป็นอาชีพที่คนไทยในยุคปัจจุบันทำกันมาก เดินเข้าไปทุกตลาดต้องมีขนมชนิดนี้ขาย

แม่ค้าบางราย อาจจะหยอดขนมครก แคะขนมครกตั้งแต่สาวจนแก่ เพื่อส่งลูกหลานไปเรียนหนังสือจนมีวิชาความรู้ เป็นพลเมืองที่มีคุณภาพของสังคมไทย

สมควรหรือไม่ที่จะมาดูหมิ่นว่า ไม่เหมาะสมกับศิลปะชั้นสูง!!

หรือคณะกรรมการของกระทรวงวัฒนธรรม อาจลืมไปว่า เดี๋ยวนี้ขนมครกของชนชั้นไฮโซก็นิยมขายกันมาก อยู่ตามห้างหรูหรา

ถ้ามีข้อมูลประเด็นนี้ อาจเปลี่ยนใจไม่มีมติเช่นนี้ก็ได้

เพราะขนมครกของไฮโซในร้านค่าเช่าแพงๆ ก็มีอยู่ไม่น้อย

มองแง่นี้ก็เหมาะสมกับความเป็นทศกัณฐ์อยู่พอสมควร

แต่ถ้ามองแค่ว่า ภาพในมิวสิควิดีโอนั้น การหยอดขนมครกของทศกัณฐ์ ไปหยอดกันตามร้านริมทาง เข้าข่ายอาชีพคนจน

อย่างนี้ก็คงไม่เหมาะกับความเลิศหรูของทศกัณฐ์แน่ๆ

ก็จะได้รู้กันไปว่า ในสังคมไทยยุคถอยหลังเข้าถ้ำทุกด้านขณะนี้

ขนมครกก็กลายเป็นของชนชั้นต่ำ

เกิดอาการเหม็นสาบคนหยอดขนมครกขึ้นมาแล้วหรืออย่างไร!?

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน