คอลัมน์ เป็นแม่ไม่ง่าย
ตอน อยากโตต้องเขย่งอยากเก่งต้องขยัน

เป็นแม่ไม่ง่าย – ท้องลูกชายตอนอายุราว 31 ตั้งใจมาก เพราะคบกับแฟนนานแล้ว เพราะความอยากมีลูกก็เลยตัดสินใจ แต่งงานแต่งงานได้ราวสามสี่เดือนก็ท้อง แพ้ท้องหนักมาก อาเจียนทุกวัน วันละเป็นสิบรอบ เราก็กลัวลูกไม่ได้ ก็อาเจียนแล้วก็กิน อยากกินแต่ของร้อน ก๋วยเตี๋ยว หรือซุปร้อนๆ ตอนนี้ลูกก็ชอบซุปร้อนๆเหมือนกัน กับข้าวอื่นจะเป็นอะไรก็ตามต้องมีซุปด้วยทุกมื้อ

ตอนแรกที่ลูกเล็กๆมีอาการแพ้อากาศ มีอาการเป็นผื่นคันง่าย เป็นหวัดง่าย แต่ไม่ได้รุนแรง เราก็มาคิดว่าทำยังไงให้ลูกแข็งแรงเลยเริ่มด้วยการพาไปว่ายน้ำ วีคละ 5 วัน ว่ายสระผู้ใหญ่ มีครูสอน ลูกก็มีความสุข ชอบ และว่ายน้ำเก่ง เคยแข่งว่ายน้ำระดับจังหวัด ตอนห้าขวบ ได้ที่สี่

ประกอบกับธรรมชาติน้องเป็นคนพลังเยอะ ซน วิ่งตลอด คุยกับหมอหมอก็แนะนำให้พาไปออกกำลังกายออกแรง จะได้ไม่เครียด สลายพลังอย่างมีประโยชน์และน้องจะได้แข็งแรงขึ้นด้วย เราก็เห็นด้วย

เรามองว่าการพาลูกออกกำลังกาย ซ้อมทุกวัน เป็นการเสริมสร้างวินัยโดยรวม จะได้ฝึกให้ลูกได้เตรียมเข้าระบบโรงเรียนด้วย ซึ่งได้ผลดีมากอย่างเห็นได้ชัด ส่วนเรื่องอาการป่วยลูกเป็นหวัดน้อยลงมาก ภูมิแพ้ไม่มีเลย หายไปเลย

หลังจากนั้นพอเข้า ป. 1 น้องก็เริ่มเล่นฟุตบอลกับเพื่อนๆ การได้เล่มเป็นทีมร่วมกับเพื่อน ลูกสนุกกว่าเพราะได้แชร์ช่วงเวลากับเพื่อน และคุณแม่ก็ชอบที่ได้พัฒนาทักษะสังคม เป็นคนที่เพื่อนรัก สร้างความบันเทิงในกลุ่ม ตลกเฮฮา เพื่อนขาดไม่ได้

หมอบอกว่าเป็นเด็กอีคิวดี เวลามีปัญหาก็ไม่จมปลักกับความเครียด ซึ่งตรงนี้คิดว่ามีผลจากกีฬา ลูกเคยถูกเพื่อนบางคนที่เล่นดีกว่าบูลลี่ ดูถูก ด้วยถ้อยคำที่ไม่ดี

หลายครั้ง ลูกก็เคยเสียใจ จนคิดว่าจะเลิกเลย แต่แม่ก็ให้กำลังใจ สอนว่าอยากโตต้องเขย่งอยากเก่งต้องขยัน จะแพ้ตลอดไปหรือจะลองพยายามข้ามผ่านปัญหานี้ไปให้ได้ ลูกก็เกิดฮึดขึ้นมา ขยันซ้อม ตื่นมาวิ่งแต่เช้าทุกวัน ขอแม่ไปเข้าคอร์สเรียนฟุตบอล ทำการบ้านเสร็จก่อนเลิกเรียนทุกวัน เพื่อที่หลังเลิกเรียนจะได้รีบไปซ้อม จนในที่สุดลูกก็ประสบความสำเร็จตามที่ตั้งใจในที่สุดโดยที่เรื่องเรียนก็ไม่เสีย

เป็นเด็กที่พอได้ตารางสอนแล้วก็เอามาวางแผนจัดตารางเวลาในชีวิตได้เอง เราเน้นเรื่องการรักษาคำพูดกับลูกด้วย เพื่อให้ลูกเป็นคนรักษาคำพูดเช่นกัน ถ้าเราทำผิดก็ต้องขอโทษลูก เพื่อให้เขาเรียนรู้จากสิ่งที่เราทำจริงๆ

ครูที่โรงเรียนบอกว่าลูกมีบุคลิกที่ดูโตเป็นผู้ใหญ่กว่าวัย ดูโตกว่าเพื่อนคนอื่นๆในห้อง เป็นผู้นำของเพื่อนๆ มีภาวะผู้นำสูง ไม่เคยรังแกเพื่อนไม่ว่าจะทางกาย วาจา ใจ

เรื่องการบำรุงร่างกายลูก ตอนนี้เขาเป็นคนชอบดื่มนมอยู่แล้ว ดื่มวันละสองลิตร เป็นนมแกลลอนรสจืด กินแทนน้ำเลย ไม่เคยกินวิตามินเสริม ลูกกินข้าวเก่ง เน้นปลา แซลมอน ปลาทู ปลากะพง เราก็มาดัดแปลงเป็นเมนูต่างๆ ปลาทูคลุกข้าว กับแกงจืด เป็นสิ่งที่โปรดปรานมาก ลูกทั้งสองคนชอบทานปลา เราจะใส่ใจดูแลเรื่องการนอนของลูกด้วย ไม่เคยเกิน 2-3 ทุ่มทุกคืน เพราะการนอนเป็นเวลาสำคัญสุขภาพเด็กๆมาก

ประมาณหนึ่งปีที่ผ่านมาลูกก็คัดตัวพรีอะคาเดมีกับสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ที่แคมป์ ที่บางบ่อสมุทรปราการ ตามที่เขาประกาศ และน้องลูกชายก็ผ่านการคัดตัวเข้าไป

ก่อนหน้านั้นเป็นนักฟุตบอลโรงเรียนเคยแข่งระดับ ทุกครั้งที่น้องแข่ง เราก็พากันไปเชียร์ทั้งบ้าน กรี๊ดกร๊าดกันข้างสนาม

เราสอนลูกเสมอว่า ผลจะเป็นยังไงก็ช่าง ต้องอย่าตำหนิต่อว่าคนอื่น ฟุตบอลต้องไปกันเป็นทีม เราต้องพากันไปทั้งทีม ลูกเล่นในตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็ค ข้อดีของลูกคือจริงๆเล่นได้ทุกตำแหน่ง แต่น้องเล่นตำแหน่งนี้เพราะตัวโต มีทักษะการแย่งบอลที่ดี ที่สำคัญคือลูกชายไม่หวงบอล ชัยชนะของลูกคือชัยชนะของทีม ไม่เคยน้อยใจหรือคิดมาก

หลังจากผ่านสโมสรมาหนึ่งปี ลูกก็เริ่มบอกว่า อยากเป็นนักฟุตบอลอาชีพ เราก็สอนลูกว่า โลกภายนอกการแข่งขันมันสูงมากต้องยอมรับความกดดันนะ อยากให้ลูกมีความนอบน้อมถ่อมตน เราไม่ต้องไปบอกใครว่าเรามีความสามารถ แต่เราต้องพัฒนาศักยภาพและความสามารถตัวเองจนมันปรากฏออกมาให้คนอื่นเห็นเอง เราต้องทำสิ่งที่อยู่ตรงหน้าให้เต็มที่

ซึ่งในอคาเดมี่ คะแนนด้านนิสัยเขาก็เต็มตลอด เช่นเรื่องของการมีน้ำใจ ช่วยเหลือ ไม่เอาเปรียบเพื่อน ไม่รังแกเพื่อน ไม่เล่นนอกเกม มีน้ำใจนักกีฬา รู้แพ้รู้ชนะ ซึ่งตรงนี้เป็นสิ่งที่แม่ภูมิใจในตัวลูกมากที่สุด ยิ่งกว่าการเป็นเด็กเก่งอีก

ช่วงนี้ติดช่วงรักษาระยะห่างโควิด งดซ้อมที่สโมสร ไปซ้อมที่สโมสรไม่ได้ก็ฝึกที่บ้าน ก็ซ้อมวิ่งราวสี่ห้าโลในสวนหย่อมหมู่บ้าน ฝึกเดาะบอล ออกกำลังกายด้วยท่าต่างๆ โดยดูจากคลิปวิดิโอออกกำลังกายที่สโมสรส่งมาให้ ทุกวัน เพื่อให้กำลังอยู่ตัว ลูกก็กระตือรือร้นทำเองทุกวันเราไม่ต้องเคี่ยวเข็ญ

ตอนนี้ลูกสาวคนเล็ก ป. 2 ก็มาเล่นยิมนาสติก ซึ่งเขาก็มีความสุข และชอบเล่นกีฬาเหมือนกัน ลูกมีชอบภาษาอังกฤษ คนเล็กก็ชอบศิลปะด้วย เราก็สนับสนุนลูกทุกอย่างที่ลูกอยากทำ

เรามองว่าพรสวรรค์ของลูกเราคือความอดทน เข้มแข็งจากข้างใน และมีวินัยมาก ยิ่งการเป็นสมาชิกนักฟุตบอลพรีอะคาเดมีของสโมสรก็ต้อง กิน นอน ตื่นตามตาราง ต้องมีวินัยมากๆ

เรื่องอนาคตการเรียน อยากให้เขาตัดสินใจเอง เราไม่ได้ไปตีกรอบ แล้วแต่ความสนใจของเขา เราจะไม่กดดันเขาให้ไปตามที่เราต้องการ แม่จะไม่ว่าเลยไม่ว่าจะเลือกเส้นทางแบบไหน แต่ไม่ว่าจะเลือกทางไหนก็ต้องทำให้เต็มที่ อย่าละความพยายาม

ฝากถึงคุณแม่ท่านอื่นที่ลูกสนใจกีฬา เราอยากเน้นเรื่องวินัย เพราะสำคัญที่สุด และอีกวินัยที่ได้มากจากการเล่นกีฬาก็จะส่งผลดีกับด้านอื่นๆของลูกด้วยทั้งเรื่องการเรียน การใช้ชีวิตในแง่มุมอื่นๆ

“ตั้งใจ เต็มที่ และมีความสุข” ขอส่งพลังบวกให้ทุกคนเลยค่ะ

ที่มาของเรื่อง : แม่หน่า น้องทีเค


ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน