ซื้อเวลาแก้ รธน. – ประยุทธ์สนับสนุนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่ให้รอสมัยประชุมหน้า จะเสนอร่างของรัฐบาลควบคู่ฝ่ายค้าน ขณะเดียวกัน ก็จะเปิดเวทีรับฟังนักเรียนนักศึกษา ถ้ามีเวลา ประยุทธ์อาจไปนั่งฟังด้วย

โลกสวยดีจัง บรรยากาศดีขึ้นฉับพลัน? เหมือนงาช้างงอก แต่เอ๊ะ ถ้ารัฐบาลจริงใจ ทำไมไล่ดำเนินคดีแกนนำนักศึกษา ทั้งที่เชียงใหม่ ลำพูน ระยอง หน้ากองทัพบก ฯลฯ ผู้ช่วยรัฐมนตรีก็ไปแจ้งจับอานนท์ นำภา

อ้าปากเห็นลิ้นไก่ ถ้าไม่ใช่ม็อบกดดัน มีหรือจะผ่อนท่าทีแก้รัฐธรรมนูญ แล้วที่บอกสนับสนุน ก็ไม่รู้สนับสนุนอะไร เพราะในขณะที่กรรมาธิการวิสามัญฯ รวมทั้งประชาธิปัตย์ เสนอแก้มาตรา 256 ตั้ง ส.ส.ร.มายกร่างใหม่ทั้งฉบับ พรรคพลังประชารัฐกับพรรค 250 ส.ว.ก็ยืนกราน ไม่เห็นด้วยกับการตั้ง ส.ส.ร. ไม่ยอมให้แตะ 250 ส.ว.

ถ้าสนับสนุนจริง ประยุทธ์ต้องพูดให้ชัด ว่าเห็นด้วยกับการแก้ 256 เพื่อให้แก้รัฐธรรมนูญได้ง่ายขึ้น ปลดเงื่อนตายที่ กรธ.มีชัยวางไว้ 4 ประเด็นคือ

หนึ่ง ต้องให้ ส.ว.เห็นชอบ 1 ใน 3 ทั้งวาระแรกและวาระสาม สอง ต้องให้ ส.ส.พรรคจากที่ไม่ได้เป็นรัฐมนตรีหรือประธานสภาเห็นด้วย 20% สาม บังคับลงประชามติพร่ำเพรื่อ ทั้งการแก้มาตรา 256 เอง การแก้ไขคุณสมบัติผู้ดำรงตำแหน่ง และอำนาจหน้าที่ของศาลองค์กรอิสระ

สี่ จะแก้ไขอะไรก็ต้องขออนุญาตศาลรัฐธรรมนูญ สมมติประชาชน 65 ล้านคนเข้าชื่อกันให้ยุบศาลรัฐธรรมนูญ ตุลาการ 5 ใน 9 คนก็อาจชี้ว่าผิดมาตรา 255 เป็นการเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครอง ทำไม่ได้ (ไอ้ 65 ล้านคนนี่เป็นกบฏ)

ถ้าสนับสนุนจริง ประยุทธ์ยังต้องรับปากว่า จะให้ 250 ส.ว.สนับสนุน ไม่ใช่ถึงเวลา 250 ส.ว.อ้างมีอิสระ ไม่ยอมให้แก้ แล้วประยุทธ์ก็บอกว่าจนปัญญา

ปัดโธ่ อย่าแหกตาชาวบ้านเลย ตั้งมาโหวตตัวเองเป็นนายกฯ พอจะแก้รัฐธรรมนูญบอกว่ามีอิสระ นายกฯ สั่งไม่ได้

ถามว่าถ้าทำตามนี้ได้ทั้งหมด อนาคตจะสดใส? โลกสวย? ไม่ใช่อีกนั่นแหละ รัฐธรรมนูญมีชัยวางกลไกสารพัดพิษ คิดแบบนั้นได้อย่างไร

การแก้ไขมาตรา 256 ยังต้องใช้เวลา เช่น ผ่านวาระแรกแล้วก็ต้องไปตั้งกรรมาธิการ กำหนดที่มาและคุณสมบัติ ส.ส.ร. ผ่านวาระสาม ก็ต้องเอาไปทำประชามติ พอ ส.ส.ร.ร่างรัฐธรรมนูญกลับมา หลังจากผ่านสภา ยังต้องทำประชามติอีกครั้ง

รัฐบาลยังเตะถ่วงได้อีกนาน เช่นกว่าจะเข้าสภาสมัยหน้า วิษณุอ้างว่ายังไม่มีกฎหมายประชามติเลย ต้องร่างกฎหมายอีก ฉะนั้นกว่าจะทำประชามติ กว่าจะตั้ง ส.ส.ร. กว่าจะได้รัฐธรรมนูญใหม่ ก็อาจลากยาวไปจนเกือบครบสี่ปี เลือกตั้งอีกสมัย 250 ส.ว.โหวตประยุทธ์อีกที ถึงตอนนั้นก็ไม่มีความจำเป็นต้องแก้อำนาจ 250 ส.ว.

ทั้งที่อำนาจ 250 ส.ว.เลือกนายกฯ คือเครื่องมือรัฐประหารสืบทอดอำนาจ คืออุปสรรคของประเทศขณะนี้ ที่ประชาชนเปลี่ยนรัฐบาลไม่ได้ ไม่ว่าเรียกร้องให้ยุบสภาลาออก 250 ส.ว.ก็เลือกประยุทธ์กลับมา

พรรคฝ่ายค้านและประชาชนจึงไม่ควรหลงกลเล่นตามเกม แก้เพียงมาตรา 256 เพื่อตั้ง ส.ส.ร. เพราะถ้าลำดับความสำคัญ จะต้องแก้ทั้งปัญหาเฉพาะหน้าและระยะยาว นั่นคือต้องตั้งเป้าแก้รัฐธรรมนูญโละ 250 ส.ว. พร้อมกับแก้มาตรา 256 แล้วเรียกร้องให้ยุบสภาเลือกตั้งใหม่ โดยทำประชามติไปพร้อมกัน

ซึ่งเป็นไปตามข้อเสนอของปิยบุตร แสงกนกกุล คือ หนึ่ง ยกเลิกมาตรา 269-272 โละ 250 ส.ว.และอำนาจโหวตนายกฯ แล้วไปใช้ ส.ว.เลือกกันเองตามมาตรา 107 ซึ่งอาจไม่ได้ดีเด่นัก แต่ยังดีกว่า ส.ว.ที่ คสช.ตั้ง

สอง ยกเลิกมาตรา 279 ที่คุ้มครองประกาศคำสั่งรัฐประหาร เพื่อเข้าสู่ระบบกฎหมายตามรัฐธรรมนูญ

สาม แก้มาตรา 256 เพื่อยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ แต่โปรดอย่าหวังว่า ส.ส.ร.คือของวิเศษ รัฐธรรมนูญ 2540 ไม่ได้สำเร็จเพราะ ส.ส.ร. แต่เพราะสังคมมีฉันทามติว่าจะต้องปฏิรูปการเมือง (ซึ่งก็ไม่ใช่ดีหมดอีกนั่นแหละ รัฐธรรมนูญ 40 คือต้นตอความคิดองค์กรมหาเทพ)

สี่ เพิ่มจากปิยบุตร แก้ระบบเลือกตั้ง ซึ่งน่าจะเป็นฉันทามติ ไม่มีใครยอมรับระบบบัตรใบเดียว ต่างเขตต่างเบอร์ สูตรคำนวณเศษมนุษย์ แม้แต่ กกต.ก็เข็ด ไม่อยากโดนด่าอีก

แก้พร้อมกันทั้งหมดนี้ แล้วเรียกร้องให้ยุบสภา เลือกตั้งใหม่ เลือก ส.ว.ใหม่ พร้อมกับทำประชามติมาตรา 256 ได้รัฐบาลเสียงข้างมาก ซึ่งอาจเป็นประยุทธ์ก็ได้ ไม่มีใครรังเกียจหากมาโดยชอบธรรม ไม่อาศัย ส.ว.ตู่ตั้ง หลังจากนั้นก็เลือก ส.ส.ร.มาร่างรัฐธรรมนูญใหม่ เปิดเวทีถกเถียง ให้ประชาชนมีส่วนร่วมกำหนดอนาคต ในบรรยากาศประชาธิปไตย

ต้องบรรลุเป้าหมายเช่นนี้จึงจะเป็นการปลดล็อกประเทศ “รวมไทยสร้างชาติ”

เพ้อฝันหรือเปล่า มีโอกาสสำเร็จไหม มีสิครับ เพราะ 250 ส.ว.ยอมไม่ได้ จะต้องขัดขวางสุดฤทธิ์ ซึ่งเท่ากับขวางแก้รัฐธรรมนูญเพื่อประโยชน์ตัวเอง จะเป็นการปลุกพลังประชาชนไปในตัว

นึกหน้าสมชาย เสรี วันชัย พรเพชร ฯลฯ แล้วชูสโลแกน “250 ส.ว.มีไว้พุ่งชน”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน