ชกไม่มีมุม
วงค์ ตาวัน
อยู่ในช่วงหยุดยาว “วันแม่” ช่วงเสาร์-อาทิตย์-จันทร์นี้ เมืองกรุงเลยมีสภาพโล่งไปบ้าง ท้องถนนมีรถวิ่งเบาบางไปพอควร ด้วยคนต่างจังหวัดที่เข้ามาพำนักและมาทำงาน ได้โอกาสเดินทางกลับบ้านไปไหว้แม่ หรือคนที่เป็นแม่แต่ไม่ได้อยู่บ้าน ก็ได้กลับไปให้ลูกหลานได้ไหว้ได้โอบกอด
รวมไปถึงอีกบางส่วน ได้พาครอบครัวออกพักผ่อน ท่องเที่ยว
มองในเชิงเศรษฐกิจ หยุดยาว 3 วันแบบนี้ ช่วยให้มีการจับจ่ายตามเมืองท่องเที่ยว โรงแรม บ้านพัก รีสอร์ต พอจะหายใจหายคอกันโล่งขึ้น
ในท่ามกลางภาวะการเงินฝืดเคืองไปทั่ว เป็นผลกระทบจากการเมืองบ้านเราที่ยังไม่อยู่ในช่วงปกติ
ในช่วง 3 ปีเศษมานี้ ความสงบกลับคืนมา ไม่มีม็อบที่ทำให้เกิดความตึงเครียด
แต่เป็น 3 ปีเศษที่ไม่มีประชาธิปไตยปกติ มีผลให้ทั่วโลกตั้งแง่ การค้าการขายเข้าสู่ภาวะยากลำบากทันที!
นักเศรษฐศาสตร์ นักธุรกิจชั้นนำ ผู้รอบรู้ทางการเงิน ล้วนมีความเห็นตรงกันว่า
ในภาวะเช่นนี้ เศรษฐกิจบ้านเรานั้นโตแต่ในส่วนบน แต่เม็ดเงินไม่ลงไปถึงระดับล่าง ประชาชนชาวบ้านส่วนใหญ่กระเป๋าแห้ง-ปากแห้ง
ผ่านมา 3 ปีเศษแล้ว ถ้าสภาพเช่นนี้ดำเนินไปอีกสักปี ชักเป็นห่วงว่า อาจเกิดปัญหาที่กระทบถึงการเมืองได้
อีกปีเศษ หมายความว่า ถ้าประชาธิปไตยปกติยังไม่กลับคืนมา!?!
อาจจะมีเสียงโต้แย้งว่า ต้องช่วยกันยอมอดทนหน่อย เพราะเราอยู่ในช่วงปิดซ่อมประชาธิปไตย
การปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง ต้องเดินหน้าให้ลุล่วงไปมากกว่านี้เสียก่อน ถ้ารีบเลือกตั้ง การเมืองไทยก็จะวนกลับไปเหมือนเก่าซึ่งก่อปัญหามากมาย
คำพูดทั้งหลายเหล่านี้ มาจากความคิดความเชื่อของคนกลุ่มเดียว!!
ขณะที่คนอีกจำนวนไม่น้อย ไม่เคยเชื่อในทฤษฎีแบบนี้
ไม่เชื่อว่าปัญหาการเมืองปัญหาประเทศ จะจัดการได้ด้วยอัศวินม้าขาว
เพราะวิธีการใช้อำนาจพิเศษเข้าควบคุมการปกครอง ก็คือ เป็นเรื่องของคนกลุ่มเดียวที่เข้ามาควบคุมทุกอย่าง คิดและทำกันเองในหมู่คนกลุ่มเดียว
โลกนี้ คำว่าผู้วิเศษกลุ่มเดียวที่จะมาแก้ไขทุกสิ่งทุกอย่างให้คนส่วนใหญ่นั้น มีอยู่แค่ในนิยาย!
แล้วที่แน่ๆ ผลของการที่ใช้คนกลุ่มเดียวปกครองบ้านเมือง เศรษฐกิจก็เป็นอย่างที่เห็นกันในวันนี้
แต่วันนี้โจทย์ที่ยุ่งยากของผู้มีอำนาจคือ ผลกระทบของคดีความในปลายเดือนนี้
จะทำให้การกำหนดวันเลือกตั้งรวดเร็ว ต้องคิดมากคิดหนักไปด้วย
แต่ถ้าไม่กำหนด ถ้าใช้วิธีทอดเวลาออกไป
ระเบิดเวลาที่ชื่อเศรษฐกิจอาจออกฤทธิ์ได้ เช่นกัน!