บานปลายไม่หวนกลับ – ประยุทธ์ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน “ร้ายแรง” ส่งตำรวจเข้าสลายม็อบ ทั้งที่เลิกไปก่อนแล้ว จับ 4 แกนนำและ 18 ผู้ชุมนุม แต่ประชาชนหลายหมื่นซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักเรียนนักศึกษา ยังไปรวมตัวกันที่ราชประสงค์ มิไยตำรวจขู่ว่าใครนัดชุมนุมมีความผิด แต่ทวีตภพก็ขึ้นแฮชแท็กเกือบ 5 แสน

ในต่างจังหวัดเกิดม็อบที่ ม.เชียงใหม่ ม.สุรนารี หาดใหญ่ และอาจมีอีกหลายจังหวัด เพราะประกาศฉุกเฉิน “ร้ายแรง” มีผลในกรุงเทพฯ เท่านั้น รัฐจะทำอย่างไร ประกาศทั่วประเทศเลยไหม

ไม่ตระหนักเลยหรือ ว่าจะยิ่งโหมกระพือ ตั้งแต่ภาพ-คลิป จับไผ่ ดาวดิน กับเพื่อน 21 คน ภาพขนคนขึ้นรถขยะ กทม. มาประจัญม็อบ จนโดนทางด่วนปรับ คลิปคนใส่เสื้อเหลืองรุมทำร้ายคนมามอบ รวมทั้งนักข่าว ภาพสลายม็อบ และทหารเต็มรัฐสภา ซึ่งทำให้คนข้องใจว่า ทหารจะมาแทรกประชาธิปไตยอีกหรือไร

ว่าที่จริง ถ้าย้อนเวลาไป 2-3 วัน นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ก็เชื่อว่า ม็อบ 14 ตุลาไม่น่ามีอะไร บางคนยังสงสัย ทำไมเรียกร้องให้เปิดสภาวิสามัญ เพราะวันที่ 1 พ.ย. ก็จะเปิดสมัยสามัญอยู่แล้ว

แม้บรรดานักวิแคะจะมั่วบ้าง เช่นอ้างว่าพรรคเพื่อไทยถอย ไม่หนุนม็อบแล้ว อ้างว่าข้อเรียกร้องทำให้คนไม่เอาด้วย หรือแกนนำแตกคอกัน ฯลฯ แต่กระทั่งฝ่ายเชียร์ม็อบก็ยังเชื่อว่า คนจะมาน้อยกว่า 19 กันยา เผลอๆ น้อยกว่า 16 สิงหาด้วยซ้ำ

เพราะหนึ่ง 14 ตุลาเป็นวันพุธ วันเรียนวันทำงาน เพราะสอง มวลชนเสื้อแดงต่างจังหวัดก็เห็นว่าไม่น่าจะเป็นจุดเปลี่ยน ไม่จำเป็นต้องมา ไม่เหมือน 19 กันยา เป็นวันฟื้นพลังเสื้อแดง หลังนิสิตนักศึกษาประกาศยกย่อง จึงหลั่งไหลมาน้ำตาซึม

เพราะสาม พลังคนรุ่นใหม่กระตุ้นด้วยกระแสเฉพาะหน้า 18 กรกฎา โกรธโควิดระยอง 16 สิงหา ออกมาเพื่อรับรอง 10 สิงหา แต่ 14 ตุลา ดูไม่มีอะไร การแก้ไขรัฐธรรมนูญต้องรอดูเปิดสภา

ที่ไหนได้ ฝ่ายรัฐกลับเรียกแขกเสียเอง ตำรวจตะลุมบอนจับไผ่ ดาวดิน และเพื่อน 21 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักศึกษา รายหนึ่งยังเป็นนักเรียนด้วยซ้ำ ทั้งที่น่าจะหาวิธีเจรจา ดีกว่าใช้กำลัง

ทั้งภาพทั้งคลิป พรึ่บเดียวไปทั่วโลกออนไลน์ ตำรวจอุ้มไผ่ราวกับอนุสาวรีย์อุ้มเด็ก (ที่โดนย้ายแล้ว) ศูนย์ทนายสิทธิฯ ชี้ว่าทำเกินกว่าเหตุ ไม่แจ้งข้อหา คุมตัวผิด ป.วิอาญา ตำรวจก็อ้าง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน คัดค้านจนศาลไม่ให้ประกัน

นี่อ่านประวัติศาสตร์ 14 ตุลากันบ้างหรือเปล่า หรือเชื่อว่าอำนาจแข็งโป๊ก ใครทำอะไรไม่ได้

เท่านั้นแหละ ม็อบพรึ่บ ตั้งแต่เช้า ระดมกันไปช่วงชิงพื้นที่

แกนนำม็อบยังมีความรับผิดชอบ นำเดินไปทำเนียบตั้งแต่ 14.30 น. เพื่อหลีกขบวนเสด็จฯ ตำรวจจัดให้ไปตามถนนนครสวรรค์ แต่ระหว่างนั้นมีมวลชนจำนวนหนึ่งไปรอหน้าทำเนียบ แล้วไม่ทราบตำรวจจัดเส้นทางอย่างไร นำขบวนเสด็จฯ ฝ่าเข้าไปทั้งที่รู้ว่ามีมวลชนอยู่ ทำให้ ผบ.ตร.สั่งเด้ง 3 นายพล

ตกดึก ตำรวจใช้ท่าทีแข็งกร้าว ทำท่าจะสลาย แกนนำก็รับผิดชอบต่อชีวิตประชาชน ประกาศยุติการชุมนุมตั้งแต่ตีหนึ่ง ก่อนประยุทธ์ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินร้ายแรงตอนตีสี่ เพียงแต่คนจำนวนหนึ่งพักค้างคืนอยู่ตรงนั้น กระทั่งตำรวจเข้ามากวาดจับ

ถ้าแกนนำดึงดันให้คนหลายหมื่นอยู่ร่วมกัน แล้วตำรวจใช้กำลัง จะเกิดอะไรขึ้น

รัฐประเมินสถานการณ์อย่างไร จึงใช้มาตรการเช่นนี้ (ตอนที่ประกาศก็รู้แล้วว่าม็อบยุติ) หรือคิดว่าจับแกนนำ คิดว่าประกาศห้ามชุมนุมเกิน 5 คน แล้วทุกอย่างจะจบ

รัฐบาลและหน่วยงานความมั่นคงประเมินคนรุ่นใหม่อย่างไร หรือเชื่อตามซูเปอร์โพลว่าในโลกออนไลน์มีตัวตนจริงแค่ 5% หรือเชื่อตามสื่อฝ่ายตัวว่าเด็กโดนล้างสมอง หรือพรรคการเมืองขนคนมา

คนรุ่นใหม่ไม่มีแกนนำ และ “ไม่ทน” เยาวชนปลดแอกมีตัวตั้งตัวตี 2-3 คน นัดครั้งแรกมาหลายพัน ม็อบตุ้งติ้ง ม็อบแฮมทาโร่ เด็กนักเรียนชูสามนิ้ว นัดกันเองทั้งนั้น เพียงแต่เมื่อเคลื่อนไหวไปบางคนก็มีบทบาทโดดเด่น เช่น อานนท์ เพนกวิน รุ้ง ไผ่ ไมค์ ฯลฯ

แต่ไม่มีคนเหล่านี้ก็เคลื่อนไหวได้ แบบม็อบฮ่องกง ใช้ ทวีตเตอร์นัดย้ายจุดได้ทุกวัน แถมโควิดอำนวย ใส่หน้ากากปิดบังหน้าตา

แล้วรัฐบาลจะทำอย่างไร จะจับนักเรียนนักศึกษาวันละร้อย? วันละพัน? แล้วจะสยบความโกรธของคนรุ่นใหม่ได้ไหม จะใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินร้ายแรงถึงเมื่อไหร่ วันไหนเลิกใช้จะรับมืออย่างไร เพราะม็อบใหญ่มาอีกแน่ ยังไม่เลิกก็มา

รัฐโหมไฟทำให้ทุกอย่างบานปลายไปแล้ว เรียกคืนไม่ได้ หวนไปอยู่อย่างเดิมไม่ได้ จะทำอย่างไร รับผิดชอบด้วยก็แล้วกัน

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน