คอลัมน์ วิเคราะห์การเมือง
2 แนว การต่อสู้ – จุดเด่นของ “เยาวชนปลดแอก”และ “คณะราษฎร 2563” คืออะไร
คือการปรากฏขึ้นของ “คนรุ่นใหม่” ไม่ว่าจะอยู่ในสถานศึกษา ไม่ว่าจะอยู่ในสถานประกอบการต่างๆทั้งในกรุงเทพมหานครและในส่วนภูมิภาค
คนที่ออกนำหน้าในการเคลื่อนไหวเป็นคนกลุ่มนี้
แรกที่ปรากฏผ่าน “เยาวชนปลดแอก” เมื่อ เดือนกรกฎาคมอาจยังไม่เด่นชัด แต่เมื่อผ่านเข้าสู่ เดือนตุลาคม ผ่านการล้อมปราบสลายการชุมนุมยิ่งเด่นชัด
เสียงตะโกน “ออกไป ออกไป” จึงใสและกังวาน
มีความพยายามจะสร้างกลุ่มและองค์กรขึ้นมาเพื่อเปรียบเทียบและต่อสู้
ไม่ว่าจะปรากฏในนามของ “อาชีวะเพื่อชาติ” ไม่ว่าจะปรากฏในนามของ “ไทยภักดี” ที่หน้าไทยซัมมิท หรือในพื้นที่ที่ “เยาวชนปลดแอก” ชุมนุมเคลื่อนไหว
พลันที่เกิดการเปรียบเทียบก็เห็นในความแตกต่าง
เพราะว่ามวลชนที่มากับกลุ่มเหล่านั้นแม้จะมีเด็กและเยาวชนแซมปนอยู่บ้าง แต่ก็เป็นส่วนน้อยด้านหลักย่อมเป็นผู้สูงอายุประเภทตะบันหมาก
การเพิ่มในเชิงปริมาณก็เล็กน้อยเมื่อเทียบกับ “ราษฎร 2563”
ถามว่าข้อเปรียบเทียบที่สำคัญและแหลมคมอย่างยิ่งคือเปรียบเทียบเชิง “ความคิด”
เนื่องจากการเคลื่อนไหวของ “เยาวชน” เป็นการเคลื่อนไหวเพื่ออนาคต ไม่ว่าจะเป็นอนาคตของตัว เขาเอง ไม่ว่าจะเป็นอนาคตของประเทศชาติ
จึงสะท้อนการก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับความหวัง
ตรงกันข้าม กับการเคลื่อนไหวของอีกฝ่ายมีความเด่นชัดว่าเป็นการเคลื่อนไหวเพื่อรั้งดึงพัฒนาการ ของประเทศชาติ จึงจมนิ่งอยู่กับอดีต มองไม่เห็นอนาคต
คนหนึ่งเดินหน้า ขณะที่อีกคนเดินถอยหลัง
ภายในการเคลื่อนไหวมีความขัดแย้ง ภายในการเคลื่อนไหวมีการต่อสู้
นี่ย่อมเป็นธรรมชาติดำรงอยู่ภายใต้กฎแห่งอนิจจัง ไม่เที่ยงแท้ ไม่แน่นอน หากไม่เข้าใจต่อความเป็นจริงอันถือได้ว่าเป็น “อริยสัจ” นี้ก็ย่อมตกอยู่ในความหลง
หลงกระทั่งมองไม่เห็นความหวัง มองไม่เห็นอนาคต