คอลัมน์ วิเคราะห์การเมือง
สถานะ การเมือง ของ ประยุทธ์ – สถานการณ์ทางการเมืองตอนนี้ทั้งสลับซับซ้อนและมากด้วย“ความอ่อนไหว”
เป็นความอ่อนไหวและยั่วเร้าให้นำไปสู่ “รัฐ ประหาร” ขณะเดียวกัน ก็เป็นความสลับซับซ้อนในการจัดระเบียบใหม่ในทางการเมือง
เพราะเมื่อเดือนกันยายน 2549 ก็เป็นอย่างนี้
ยิ่งสถานการณ์ก่อนรัฐประหารในเดือนพฤษภาคม 2557 ที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นผู้ลงมือกระทำด้วยตนเองก็เป็นเช่นนี้ ไม่มีอะไรแตกต่าง
ข่าวลือในเรื่อง“รัฐประหาร”จึงเริ่มดังขึ้นดังขึ้น
คนที่ผ่านสถานการณ์รัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557 ย่อมต้องเพิ่มความระวัง
เนื่องจากก่อนรัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557 มีการเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่องของมวลมหาประชาชน ดับเครื่องชนรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
มีทั้งต่อต้าน“การเลือกตั้ง” มีทั้งยึด“หน่วยราชการ”
ในที่สุด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะที่เป็นผู้บัญชาการทหารบกจึงเสียสละนำกำลังทหารบก ทหารเรือ ทหารอากาศ ออกมาทำ“รัฐประหาร”
ประกาศเป็น “คนกลาง” มาสร้างความสามัคคีในบ้านเมือง
ถามว่าจากเดือนพฤษภาคม 2557 มายังเดือนตุลาคม 2563 บ้านเมืองเป็นอย่างไร
ความปรองดองได้บังเกิดขึ้นหรือไม่ รัฐบาลสามารถบริหารราชการแผ่นดินนำความสุข ความสถาพรมาให้กับประชาชนพลเมืองได้ตามที่ประกาศหรือไม่
การปรากฏขึ้นของ “คณะราษฎร 2563” คือ คำถาม
ยิ่งกว่านั้น ทำท่าว่าความขัดแย้งมิได้มีระหว่าง “ราษฎร” กับรัฐบาลซึ่งมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี เท่านั้นหากทะลุเพดานไป ยิ่งกว่านั้น
ตรงนั้นแหละคือความสลับซับซ้อน คือความละเอียดอ่อน
ปมเงื่อนจึงอยู่ที่บทบาทของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะเล่นบทอย่างไร
เล่นบทเป็น“คนกลาง”ในการจัดการกับปัญหาได้หรือไม่ เล่นบทเป็นคนคลี่คลายปัญหาทั้งในทางการเมือง ทั้งในเศรษฐกิจเพื่อหลุดพ้นไปจาก“วิกฤต”ได้หรือไม่
ตรงนี้แหละคือความสลับซับซ้อน คือความละเอียดอ่อน