ประยุทธ์บ้านหลวง – ศาลรัฐธรรมนูญนัดวินิจฉัย ประยุทธ์ยังอาศัยอยู่ในบ้านพักทหาร เป็นการขัดกันแห่งผลประโยชน์ ตามมาตรา 184 และ 186 หรือไม่

ในทางการเมือง เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหญ่ แค่อยู่บ้านหลวงน้ำฟรีไฟฟรี เรื่องไม่ชอบธรรมยิ่งกว่านี้ก็ทำมาเยอะแล้ว เช่น เอาเปรียบกติกา ตั้ง 250 ส.ว.มาโหวตตัวเอง หัวหน้า คสช. เป็นแคนดิเดทนายกฯ ของพรรคพลังประชารัฐ ก็ไม่ขัดรัฐธรรมนูญ ไม่ใช่เจ้าหน้าที่รัฐ เพราะเป็นรัฏฐาธิปัตย์ มีอำนาจเหนือรัฐด้วยซ้ำ

บางคนทึกทัก สมัคร สุนทรเวช ยังตกเก้าอี้ด้วยเรื่องขี้ปะติ๋ว ทำกับข้าวออกทีวี ศาลเปิดพจนานุกรมชี้เป็นลูกจ้าง งงกันไปหมด เพราะตุลาการไปรับสอนหนังสือ ไม่ยักบอกว่ารับจ้าง

ปัดโธ่ นั่นมันสมัคร ไม่ใช่ประยุทธ์ผู้ซื่อสัตย์จงรักภักดี มี FC คนดีย์ทั่วประเทศ (แม้สมัครได้รับเลือกจาก 15 ล้านเสียง) จะให้ประยุทธ์ตกเก้าอี้ ต้องมีเหตุผลทางกฎหมายชัดเจน

ว่าที่จริง ฟังคำชี้แจงก็มีเหตุผล ที่ประยุทธ์ยังอยู่บ้านพักทหาร เพราะบ้านประจำตำแหน่งนายกฯ คือบ้านพิษณุโลก ถ้าจะซ่อมแซมปรับปรุงคงหลายสิบล้าน ฝ่ายทหารก็บอกว่า อยู่บ้านหลังเดิมตั้งแต่เป็น ผบ.ทบ.น่ะดีแล้ว สะดวกแก่การรักษาความปลอดภัย

กระนั้น พอไปเปิดรัฐธรรมนูญมีชัยมาตรา 184(3) ก็สะดุ้งเหมือนกัน เพราะเขียนข้อห้าม ส.ส. ส.ว. ไว้ว่า

“ไม่รับเงินหรือประโยชน์ใดๆ จากหน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจเป็นพิเศษ นอกเหนือไปจากที่หน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจปฏิบัติต่อบุคคลอื่นๆ ในธุรกิจการงานปกติ”

โดยมาตรา 186 ให้บังคับใช้กับรัฐมนตรีด้วย ฝ่าฝืนตกเก้าอี้แถมเว้นวรรคการเมือง 2 ปี

พูดง่ายๆ คือห้ามมีอภิสิทธิ์ แล้วกรณีประยุทธ์ พักฟรีน้ำฟรีไฟฟรีค่าดูแลบำรุงรักษาฟรี ฯลฯ มีอภิสิทธิ์หรือเปล่า

กองทัพบกอ้างระเบียบว่าด้วยการเข้าพักอาศัยในบ้านพักรับรอง พ.ศ.2548 ซึ่งระบุว่าผู้มีสิทธิเข้าพักอาศัยในบ้านพักรับรองมี 2 ประเภทคือ เป็นผู้บังคับบัญชาชั้นสูงของกองทัพบก หรืออดีตผู้บังคับบัญชาชั้นสูงของกองทัพบก ซึ่งยังคงทำคุณประโยชน์ให้กับประเทศชาติและกองทัพบก และเคยดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบกมาแล้ว ซึ่งร้องขอหรือเสนอความต้องการขอเข้าพัก ผ่านกรมสวัสดิการทหารบก

จุ๊จุ๊ ระเบียบนี้กำหนดขึ้นในสมัย ผบ.ทบ.ชื่อ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ

ระเบียบนี้ไม่เกี่ยวกับกรณีนายพลเกษียณยังอยู่บ้านหลวง ซึ่งกองทัพชี้แจงว่าเป็นการยืดหยุ่นผ่อนผันระหว่างยังไม่มีบ้านของตัวเอง เพราะระเบียบนี้ล็อกสเปก เฉพาะอดีต ผบ.ทบ. ที่ยังทำคุณประโยชน์ให้ประเทศและกองทัพเท่านั้น

แปลว่าถ้าประยุทธ์ไม่ทำรัฐประหาร หลังเกษียณแล้วกองทัพเห็นว่ายังทำประโยชน์ ก็มีสิทธิขออยู่บ้านพักรับรองอีกยาวนาน เช่นเดียวกับอดีต ผบ.ทบ.ทุกคน ที่ไม่ได้เป็นนายกฯ หรือรัฐมนตรี

แต่พอเป็นนายกฯ พอประกาศใช้รัฐธรรมนูญ 2560 ก็ไปจ๊ะเอ๋กับมาตรา 184 จนต้องส่งศาลรัฐธรรมนูญตีความ ว่าระเบียบนี้จะยกเว้นไม่ให้ขัด 184 หรือไม่

นั่นเป็นอำนาจศาลวินิจฉัย ซึ่งไปทึกทักดักหน้าไม่ได้ รอฟังศาลแล้วค่อยวิเคราะห์กันด้วยเหตุผล

ที่อธิบายนี้คือข้อต่อสู้ของสองฝ่าย ซึ่งฝ่ายที่ข้องใจก็ยังมีคำถามเช่น หลังพ้นตำแหน่ง ผบ.ทบ. ประยุทธ์ได้ทำเรื่องร้องขอตามระเบียบหรือไม่ มีการอนุมัติเป็นลายลักษณ์อักษรหรือไม่ ทำไมยังอยู่บ้านหลังเดิมซึ่งเป็นบ้านพัก ผบ.ทบ. ไม่ย้ายไปบ้านพักรับรองประเภท 2

ข้ออ้างที่ว่าเพื่อรักษาความปลอดภัย พูดกันจริงๆ แล้วกองทัพบกไม่เกี่ยวอะไร การรักษาความปลอดภัยนายกฯ เป็นหน้าที่ของสำนักข่าวกรองแห่งชาติ, ศรภ. และตำรวจสันติบาล (แม้ตอนยังเป็นหัวหน้ารัฐประหารอาจบอกว่าเป็นส่วนหนึ่งของทหาร)

ว่ากันง่ายๆ ในสายตาชาวบ้าน ระเบียบกองทัพบกทำให้เกิดปัญหาเหลื่อมล้ำ ถ้านายกฯ เป็นพลเรือน ก็ต้องอยู่บ้านของตัวเอง แต่ถ้าเป็นนายกฯ ที่มาจากอดีต ผบ.ทบ. อยู่บ้านฟรีน้ำฟรีไฟฟรีบริการฟรีในค่ายทหาร

ยิ่งไปกว่านั้นถ้าย้อนไปฟังคำพูดอดีต ผบ.ทบ. เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ที่บอกว่า ทหารเกษียณต้องย้ายออกในสิ้นเดือน ยกเว้นนายกฯ คณะรัฐมนตรี ส.ว. ที่ทำคุณประโยชน์ให้ประเทศชาติ ก็น่ากังขา เพราะระเบียบปี 2548 ที่กองทัพยกมา ให้พักอยู่ได้เฉพาะอดีต ผบ.ทบ.เท่านั้น รัฐมนตรีหรือ ส.ว. ที่ไม่เคยเป็น ผบ.ทบ.จะพักบ้านหลวงอยู่ได้อย่างไร ก็เข้าข่ายขัด ม.184 ทันที

ไม่ว่าศาลจะวินิจฉัยประยุทธ์อย่างไร ระเบียบกองทัพฉบับนี้มีปัญหา ควรแก้ไข ว่าเมื่อดำรงตำแหน่งทางการเมืองแล้ว ต้องออกไปจากค่ายทหาร

เรื่องนี้จึงมีทั้งสองเรื่องอยู่ด้วยกัน ข้อโต้แย้งทางกฎหมาย เป็นอำนาจศาลวินิจฉัยคุณสมบัติ กับความเหมาะสมทางการเมือง เป็นเรื่องที่ประชาชนวิพากษ์วิจารณ์ แต่นั่นแหละ อะไรที่ไม่สง่างามทางการเมืองก็ทำมาเยอะแล้ว

ส่วนที่บางคนทึกทักว่าสถานการณ์การเมืองม็อบไล่รัฐบาลจะไปมีผลกับคำวินิจฉัย ก็มโนเสียมากกว่า จินตนาการเยอะ คิดได้อย่างไรว่าศาลจะเป็นเครื่องมือทางการเมือง เดี๋ยวหมิ่นศาลนะ ให้รู้เสียบ้างว่าใครเป็นใคร

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน