คอลัมน์ วิเคราะห์การเมือง

ภายหลังการจากไปอย่างไม่สมควรจากไปของ “น้าค่อม” ได้เกิดคำถาม

คำถาม 1 ก็คือ หากไม่มีปรากฏการณ์ “ไทยคู่ฟ้า คลับ”จากสถานการณ์บันเทิงซอยทองหล่อ คงไม่กระจายมาถึง “น้าค่อม” และผองเพื่อน “ดาวตลก”

คำถาม 1 ก็คือ หากมี “วัคซีน” อย่างทั่วถึง “น้า” คงยังอยู่

คำว่า “วัคซีน” อย่างทั่วถึง “วัคซีน” อย่างแพร่หลายซึ่งสะท้อนจากความรู้สึกของคนจำนวนไม่น้อยในสังคมนี่แหละที่กำลังกลายเป็น “คำถาม”สำคัญ

เป็นคำถามไปยัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

ต้องยอมรับว่า ความต้องการ “วัคซีน” ได้กลายเป็นอารมณ์ “ร่วม” ในทางสังคม

เดือนมกราคมที่ผ่านมา อาจมีเพียง นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ เท่านั้นที่ออกมาแถลงตั้งข้อสังเกต

ตั้งข้อสังเกตต่อแนวทาง “แทงม้าตัวเดียว” ของรัฐบาล

ผลที่เกิดกับ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อย่างทันทีคือ ความหงุดหงิดและไม่พอใจจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จาก นายอนุทิน ชาญวีรกูล ถึงกับมีการแจ้งความกล่าวโทษ

แล้วในเดือนเมษายนเกิดอะไรขึ้น

สถานการณ์ในเดือนเมษายนอาจกล่าวได้ว่าเป็นสถานการณ์ “วัคซีน” เสรี

ไม่ว่า 1 หอการค้าไทย ไม่ว่า 1 สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ไม่ว่า 1 สมาคมโรงพยาบาลเอกชน ล้วนออกมาเรียกร้องต้องการ “วัคซีน”

เสนอให้เปิด “วัคซีนเสรี” มิใช่ “แทงม้าตัวเดียว”

การระดมความเห็นจากบรรดานักธุรกิจภาคเอกชน ไม่ว่าจะเป็นกลุ่ม 40 ซีอีโอ ไม่ว่าจะเป็น กลุ่ม 100 ซีอีโอล้วนตรงกันนั่นก็คือต้องการให้เปิดกว้างในเรื่อง “วัคซีน”

ทั้งยังเรียกร้องให้เปลี่ยนตัว “รัฐมนตรี” ด้วยซ้ำ

มาถึง ณ วันนี้ เสียงของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ จึงมิได้โดดเดี่ยว

สายตาจึงทอดมองไปยังบทบาทของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่งเป็นนายกรัฐมนตรี ทอดมองไปยังบทบาทของ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีสาธารณสุข

ว่าเสียงของ“สังคม”จะมี“ความหมาย” เพียงใด

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน