คอลัมน์ ใบตองแห้ง

วัคซีนคุ้มกันดันทุรัง – พลันที่องค์การอนามัยโลกรับรอง Sinovac ก็มีเสียงไชโยโห่ร้อง ไม่ใช่จากเมืองจีน แต่จากเมืองไทย ทั้งรัฐบาลและผู้พิทักษ์ปกป้อง

กระทั่งเพจไทยรู้สู้โควิด ก็ช่วยปั่นประสิทธิภาพการป้องกัน 51%-84% ผลทดสอบในโลกจริงอยู่ที่ 94% ไม่รู้โลกไหน โลกจริงเมืองไทยมีคนแพ้คนตายคนโคม่าแต่หมอบอกว่า “บังเอิญ”

อนุทินได้โอกาส ประกาศสั่ง Sinovac อีก 11 ล้านโดส จากที่มาแล้ว 6 ล้านโดส ผอ.วัคซีนบอกว่าอาจสั่งถึง 15 ล้านโดส รวมเป็น 17-21 ล้านโดส

ทำไมยังสั่ง Sinovac วัคซีนหลัก AstraZeneca จะมาแล้วไม่ใช่หรือ ก็เพราะ Astra ส่งมอบไม่ทัน ไม่เป็นไปตามแผนของรัฐบาล ที่คาดว่าเดือนมิถุนาฯจะได้ 6.3 ล้านโดส ถัดไปเดือนละ 10 ล้านโดส

Siam Bioscience เพิ่งส่งมอบล็อตแรกได้ 1.8 ล้านโดส สั่งจากเกาหลี 2.4 แสนโดส ชมรมแพทย์ชนบทคาดว่าทั้งเดือนจะได้ 4-5 ล้านโดส จึงต้องเอา Sinovac มาเสริมให้ครบ โดยอาจจะหวังใช้ Sinovac ฉีดเพิ่มให้ได้มากที่สุด เพื่อลดการระบาด

ทั้งหมดนี้เป็นเพราะรัฐบาลคาดการณ์ผิด “แทงม้าตัวเดียว” ซึ่งมาดามแป้งออกตัว สยามไบโอไม่เกี่ยว ไม่เห็นด้วยกับการแทงม้าตัวเดียว อนุทินก็ยังอ้างว่ามี Sinovac ไม่ได้ขี่ม้าตัวเดียว

สั่งจองวัคซีนตัวเดียว พอคุมโควิดไม่อยู่ ก็ตาลีตาเหลือกไปซื้อวัคซีนแก้ขัด ตั้งแต่ WHO ยังไม่รับรอง ประสิทธิภาพก็ต่ำกว่า ราคาก็แพงกว่ายี่ห้ออื่น

รัฐบาลมีเวลาทั้งปี ในการจัดหาวัคซีน อนุทินลงนามกับ Astra ตั้งแต่ ก.ค.ปีที่แล้ว ออกเงิน 600 ล้าน สนับสนุนสยามไบโอ “รับจ้างผลิต” แล้วเดือน พ.ย. ผ่านมติ ครม. สั่งซื้อ 26 ล้านโดส วางเงินจอง 2,379 ล้านบาท

รัฐบาลคิดว่าตัวเองเก่ง ปราบโควิดเจ๋งที่สุดในโลก ไม่เข้าร่วม COVAX อ้างว่าแพง เลือกไม่ได้ ทั้งที่ COVAX ไม่ได้ห้ามจองวัคซีนเอง เข้าร่วมกับเขาแล้วจะจอง Astra หรือ Pfizer ที่เดินมาหา 3-4 รอบก็ได้ พูดจาเหมือนให้ร้าย COVAX แต่ให้กระทรวงต่างประเทศไปขอยืมวัคซีน

แล้วเป็นไงล่ะ Pfizer มาถึงเมืองไทยแล้ว แสนโดส แต่ผ่านไปลาว คนไทยหัวร่อน้ำตาไหล

แต่รัฐบาลก็ใช้ความดันทุรัง ใช้อำนาจสยบ เช่น อปท.ลุกฮือขอซื้อ Sinopharm ที่ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ “แหวกวงล้อม”สั่งมาได้ ก็อ้างกฎหมายอ้าง สตง. ขู่จนเงียบไป แม้ที่จริง การไม่ให้ อปท.ซื้อนั้นถูกแล้ว เพราะจะกลายเป็นมือใครยาวสาวได้สาวเอา แต่การที่เขาอยากซื้อก็เพราะอึดอัดไม่พอใจ รัฐล้มเหลวคุมโควิดไม่อยู่ หาวัคซีนให้ไม่พอ

มองข้ามช็อต ถ้าผ่านเดือนมิถุนายน เริ่มฉีดวัคซีนได้ แม้ไม่เป็นไปตามเป้าแม้เอา Sinovac สอดไส้ ประยุทธ์ก็คงจะคุยได้ ฉีดวัคซีนให้แล้วไง จากนั้นก็จะเอาบุญคุณ จากเราชนะ เรารักกัน คนละครึ่ง ฯลฯ โครงการสงเคราะห์ยาไส้ แม้ธุรกิจท่องเที่ยว ภัตตาคาร ร้านนวดสปา พากันวอดวาย ก็จะขายความหวังว่าเศรษฐกิจปีหน้าดีแน่ๆ ท่องเที่ยวจะกลับมา

เช่นเดียวกับร่าง พ.ร.บ.งบประมาณเพิ่งผ่านสภา เห็นอยู่ว่างบประจำเลี้ยงรัฐราชการล้นเกินต้องปรับโครงสร้าง ก็มีหน้าม้าเสนอแก้กฎหมาย เพิ่มเพดานหนี้สาธารณะดีกว่า กู้มาซื้ออาวุธ เป็นหนี้ไปชั่วเหลนโหลน ก็โทษจำนำข้าว ประยุทธ์ไม่ต้องรับผิดชอบอะไร

พูดง่ายๆ ประเทศไทยคนไทยจะอยู่ในภาวะที่ย่ำแย่ลงไปๆ โดยประยุทธ์ก็จะอยู่ต่อไป ไม่ว่าจะแย่แค่ไหน โดยอาศัยการทำลายความหวัง ว่าทำอย่างไรก็ไม่สามารถไล่ประยุทธ์ได้

วิบัติโควิดทำให้คนโกรธประยุทธ์มากที่สุด ทั้งความล้มเหลวไร้ประสิทธิภาพ ไม่รับผิดชอบ โทษประชาชนไม่ร่วมมือ แต่โควิดก็ทำให้คนไม่กล้ารวมตัว ไม่เกิดม็อบไล่ รอให้โควิดจางประยุทธ์ก็ตั้งหลักได้ อวดอ้างบุญคุณ

แกนนำราษฎรได้รับการประกันตัวหมดแล้ว แต่เคลื่อนไหวยาก ไม่ใช่แค่เงื่อนไขศาล แต่อำนาจรัฐและสลิ่มพร้อมป้ายสี เป็นพวกล้มโครงสร้าง ทำให้คนไม่กล้าเข้าร่วมทั้งที่อยากไล่ตู่

ม็อบตู่ไล่ตู่ก็ไม่มีพลัง ไม่ใช่กลุ่มที่สามารถเป็นแกนนำ ประชาชน 3 ตนที่เรียกร้องนายกฯคนนอก ก็ไม่ใช่วิถีทางที่คนส่วนใหญ่เห็นด้วย

ความห่วยของรัฐบาลทำให้ “พี่โทนี่” กลับมาเป็นที่นิยม แต่พรรคเพื่อไทยไม่สามารถเทียบชั้นพี่โทนี่ ไม่มีตัวบุคคล จะไล่ประยุทธ์ตามวิถีทางก็ต้องแก้รัฐธรรมนูญแล้วยุบสภา ไม่งั้น 250 ส.ว.ก็โหวตกลับมาใหม่

ความอับจนวนไปวนมา เพราะเงื่อนตายรัฐธรรมนูญ เพราะความใหญ่โตมหึมาของอำนาจหนุนหลังประยุทธ์ ที่ไม่แยแสใคร จะทำให้ประเทศนี้ยิ่งไปสู่จุดวิบัติที่ไม่สิ้นสุด

“7 ปีแล้วไง” 7 ปียิ่งแย่ลงๆ ยิ่งมีคนโกรธคนไม่พอใจแต่ยิ่งไล่ไม่ได้ มันจะต้องวิบัติขนาดไหนกัน

บางคนบอกว่าอาจถึงขั้นต้องเสกตะปู แต่ไม่เชื่อไสยศาสตร์ ไม่หวังพึ่ง เชื่อว่าเดี๋ยวจะเกิดอะไรปะทุจนได้ ปี 63 ก็ไม่คาดคิด แล้วเป็นไง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน