ปฏิบัติการ ไม่ลับ – ปฏิบัติการบุก “คอนโดมิเนียม” ของ นายรังสิมันต์ โรม เท่ากับเป็น “สัญญาณ”
ไม่จำเป็นต้องเป็นมือแกะรอยระดับมหากาฬ ก็พอจะมองและอ่านออกว่า คนที่สั่งการ คนที่ลงมือปฏิบัติการครั้งนี้มี “เป้าหมาย” เฉพาะหน้าอย่างไร
ต้องการ “คุกคาม” และ “ประกาศ” ให้รู้
ที่เลือกเอา นายรังสิมันต์ โรม เพราะบทบาทของ นายรังสิมันต์ โรม ระยะนับแต่อภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจในเดือนกุมภาพันธ์เป็นต้นมามีความร้อนแรง
ร้อนแรงด้วยการเจาะลึกลงไปยัง “ตั๋วช้าง”
ยิ่งหากมองจาก “ภูมิหลัง” ของ นายรังสิมันต์ โรม ก็ยิ่งเข้าตานักปฏิบัติการ “ลับ”
เพราะบทบาทของ นายรังสิมันต์ โรม มีความต่อเนื่องตั้งแต่ยังเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ สัมผัสได้จากการต่อต้าน “รัฐประหาร”
โดยเฉพาะรัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557
แม้เมื่อสไลด์จาก “นักเคลื่อนไหว” ทางการเมืองมาเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ บทบาทก็ยังโดดเด่นไต่ระดับมากับ “ธนาธร ปิยบุตร พรรณิการ์” อย่างใกล้ชิด
ปฏิบัติการ “คุกคาม” ครั้งนี้จึงเท่ากับเป็นสัญญาณ “เตือน”
คล้ายกับว่าทุกก้าวย่างจะเป็นปฏิบัติการ “ลับ” แต่เอาเข้าจริงๆ ก็ดำเนินไปอย่างเปิดเผย
แม้รถยนต์ที่นั่งไปยังคอนโดฯ จะมีการเปลี่ยนหมายเลขทะเบียน แต่เมื่อแกะรอยโทรศัพท์ที่ต่อไปยังภรรยาของ นายรังสิมันต์ โรม ก็มิได้เป็นความลับ
สามารถโยงสายยาวไปยังตัวตนเจ้าของ “หมายเลข” ได้
ที่ นายรังสิมันต์ โรม ตั้งข้อสังเกตว่าน่าจะมาจากนายพลตำรวจ “ใหญ่” ระดับสูงก็ใกล้เคียง เมื่อนำเอาหมายเลขโทรศัพท์มาเป็นร่องรอยบากดึงเข้าไป
คำถามอยู่ที่ว่า “ต้นสังกัด”จะเอาจริงเอาจังแค่ไหน
สัญญาณแห่งปฏิบัติการครั้งนี้ เป็นสัญญาณแห่งปฏิบัติการ “คุกคาม” ในทางการเมือง
เป็นการขยายผลจากที่เคยถือเอาคนของพรรคอนาคตใหม่เป็น “เป้าหมาย” มาปฏิบัติการเน้นๆไปยังบรรดา ส.ส.ของพรรคก้าวไกลโดยเริ่มจาก นายรังสิมันต์ โรม
นับจากนี้ปฏิบัติการ “คุกคาม” แบบเดียว กันนี้จะ “ขยาย” ออกไป
