บทบรรณาธิการ
เพื่อความอยู่รอด?
เป้าหมายเปิดประเทศภายใน 120 วันของรัฐบาลที่ประกาศไว้เมื่อวันที่ 16 มิ.ย. 2564 ตอกย้ำด้วยฤกษ์กำหนดอย่างเป็นทางการวันที่ 1 พ.ย.นี้
เป็นไปตามที่ผู้นำประเทศบอกไว้แต่แรกว่า ฤกษ์ดังกล่าวนี้ไม่สามารถรอให้ทุกคนได้รับวัคซีนครบสองโดสก่อนได้
อีกทั้งระบุด้วยว่า อาจทำให้มีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นบ้าง แต่จำเป็นต้องทำเพื่อความอยู่รอดในการทำมาหากินของประชาชน
ปัจจุบันจำนวนผู้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 โดสแรก มีเกินร้อยละ 50 และครบสองโดส มีเกินร้อยละ 35
แม้เป็นอัตราที่น้อยกว่าประเทศอื่นๆ ที่เปิดประเทศอยู่ในขณะนี้ แต่นายกฯ ออกตัวว่าทุกคนต้องยอมรับความเสี่ยงร่วมกัน
ความคาดหวังจากการเปิดประเทศดังกล่าวหมายถึงจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติจะกลับมาเที่ยวไทยมากขึ้น
ไม่เฉพาะกองถ่ายหนังของซูเปอร์สตาร์ รัสเซล โครว์ หากมุ่งหมายนักท่องเที่ยวจำนวนมากจาก 10 ประเทศ หรืออาจถึง 20 ประเทศ ช่วงที่ฤดูหนาวใกล้เข้ามา
หลังจากธนาคารโลกประเมินว่าโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาไทยราว 1.6 แสนคน ในปี 2564
ส่วนการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยตั้งเป้าว่าในปี 2564 จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมาไทย 1 ล้านคน สร้างรายได้รวมการท่องเที่ยวจากทั้งตลาดในและต่างประเทศ 3.2 แสนล้านบาท
จากนั้นในปี 2565 ตั้งเป้าว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติไม่น้อยกว่า 10 ล้านคน
ด้านภาคเอกชน รวมถึงสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สนับสนุนอย่างยิ่งกับการเปิดประเทศวันที่ 1 พ.ย. เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจช่วงโค้งสุดท้ายของปีนี้
พร้อมประเมินว่าเมื่อรวมกับมาตรการต่างๆ ที่ภาครัฐออกมา คาดว่าจะช่วยให้เงินไหลเวียนเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจกว่า 50,000-100,000 ล้านบาท และช่วยให้เศรษฐกิจปี 2564 ไม่ติดลบ
อย่างไรก็ตาม การประเมินทั้งด้านการท่องเที่ยวและการฟื้นฟูภาคธุรกิจนี้ยังไม่คิดเผื่อถึงสถานการณ์ที่คาดไม่ถึง เช่น การผันแปรรหัสทางพันธุกรรมของเชื้อโควิด-19 ในพื้นที่ที่มีสายพันธุ์เดลตาระบาดอยู่แล้ว กับศักยภาพในการต้านทานโรค
การเผชิญความเสี่ยงนี้จึงเป็นสิ่งที่รัฐบาลมอบให้ประชาชนอีกครั้ง